รัฐบาล โต้ตัดหน้าก้าวไกล ชิงแก้กฎหมายสุรา โวประโยชน์อื้อ เอื้อรายย่อย-ปลอดภัย

Home » รัฐบาล โต้ตัดหน้าก้าวไกล ชิงแก้กฎหมายสุรา โวประโยชน์อื้อ เอื้อรายย่อย-ปลอดภัย


รัฐบาล โต้ตัดหน้าก้าวไกล ชิงแก้กฎหมายสุรา โวประโยชน์อื้อ เอื้อรายย่อย-ปลอดภัย

รัฐบาลโต้ ไม่ได้ตัดหน้าก้าวไกล ชิงแก้กฎหมายสุรา แจงประโยชน์ 9 ข้อ เอื้อรายย่อย ปลอดภัยผู้บริโภค ยัน สภายังถกกฎหมายได้ตามปกติ

เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุรัฐบาลไม่ได้สนใจประชาชน ในการออกกฎกระทรวงเรื่องสุรา เเค่กลัวเสียหน้า กลัวขัดผลประโยชน์นายทุนว่า เป็นการแสดงความเห็นที่ไม่เห็นประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง เอาผลการเมืองของตนเองเป็นหลัก

โดยประกาศกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 มีประโยชน์กับประชาชน 9 ข้อคือ 1.กฎกระทรวงบังคับใช้ได้ทันเหตุการณ์ ทันที เหมาะกับบริบทของธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตสุราที่เปลี่ยนไป 2.สอดคล้องกับสภาพการณ์ในเชิงธุรกิจและการขออนุญาต จะทำได้ง่ายขึ้น 3.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้มากขึ้น เกิดความเท่าเทียมในการเข้าสู่ตลาด ไม่กีดกันทางการค้า

4.สุราได้คุณภาพมาตรฐานและเกิดการแข่งขันด้านกลไกตลาดที่เป็นธรรม 5.คุ้มครองสุขภาพของผู้บริโภคให้ปลอดภัยได้มากกว่า 6.ดูแลสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต ด้วยมีกฎหมายควบคุมไว้แล้ว 7.รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมอาชีพให้ชุมชน 8.จัดเก็บภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เพิ่มรายได้เข้ารัฐที่จะส่งต่อให้สังคม และ 9.อุดช่องโหว่เรื่องไม่ควบคุมการผลิตสุรา ที่มิใช่เพื่อการค้า

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เมื่อพิจารณาศึกษาบทบัญญัติในกฎกระทรวง และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนที่จะได้จากการปลดล็อกการผลิตสุรา จะกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย สร้างประเทศที่ไม่ผูกขาด และผู้บริโภคก็ยังปลอดภัย และปรับกฎที่อนุญาตให้ผู้ผลิตที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ได้รับอนุญาตผลิตสุราในครัวเรือนได้ และหากต้องการเป็นผู้ผลิตก็ทำได้

สำหรับเบียร์ จากเดิมผู้ผลิตขนาดเล็ก SME ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท กำลังการผลิต 100,000-1,000,000 ลิตรต่อปี และเป็นบริษัทตามกฏหมายไทยมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51% แต่กฎใหม่ ผู้ผลิตขนาดเล็กสามารถทำได้เพราะยกเลิกทุนจดทะเบียน ยกเลิกกำลังการผลิต ซึ่งต้องเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานหรือใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตสุราที่มีมาตรฐานตามที่กรมสรรพสามิต กำหนดและปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับสาธารณสุข

ขณะที่ผู้ผลิตเบียร์ขนาดใหญ่ อุตสาหกรรม กฎเดิม ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทกำลังการผลิต 100,000 ลิตรถึง 10,000,000 ลิตรต่อปี และเป็นบริษัทตามกฏหมายไทยมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51% แต่กฎใหม่ ผู้ผลิตขนาดใหญ่ยกเลิกทุนจดทะเบียน ยกเลิกกำลังการผลิต ต้องเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ให้ระบบการพิมพ์เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการ และจัดทำรายงานตามกฏหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม

สำหรับสุรากลั่นและสุราแช่ ที่ไม่ใช่เบียร์ ขนาดเล็ก (SME) กฎเดิม ต้องเป็นสหกรณ์วิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกร ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือบริษัทใช้เครื่องจักรต่ำกว่า 5 แรงม้า ส่วนกฎใหม่ โรงสุรากลั่นและสุราแช่ที่ไม่ใช่เบียร์ขนาดเล็กยังใช้หลักเกณฑ์เหมือนเดิม ถ้าผลิตสุรามาแล้ว 1 ปีโดยไม่มีการกระทำผิดกฏหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต สามารถขยายขนาดโรงงานได้ต่ำกว่า 50 แรงม้า

ด้านสุราแช่ขนาดใหญ่ (อุตสาหกรรม)กฎเดิม เป็นบริษัทตามกฏหมายไทยมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51% แต่กฎใหม่ เป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานและปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกล เสนอในร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. 2565(สุราก้าวหน้า) ได้ข้อเสนอให้ผู้ผลิตสุราที่มิใช่เพื่อการค้า ให้ทำเพียงแค่จดแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุรา ชนิดสุรา ขั้นตอนการผลิต และปริมาณการผลิตเท่านั้น อาจเป็นช่องโหว่ที่เสี่ยง ให้การเกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคที่อาจเกิดจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ส.ส. สามารถเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้ตามปกติขั้นตอน

ส่วนฝ่ายบริหาร ได้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ตามที่ผู้เกี่ยวข้องเสนอ และ ครม. มีมติประกาศกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 การอนุญาตให้ผลิตสุราที่มิใช่เพื่อการค้า รัฐบาลให้ความสำคัญคือ ต้องมีมาตรการควบคุมคุณภาพและสุขอนามัยในการผลิต สถานที่ผลิตที่จะไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่นในชุมชน และสุราที่ผลิตจะต้องปลอดภัยมีคุณภาพได้มาตรฐาน

นอกจากนี้มาตรการต่างๆ ในกฎกระทรวงยังมีการคำนึงถึงการป้องกันและลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต เป็นกฎหมายที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และกลุ่มที่ไม่ใช่ผู้บริโภค อีกทั้งยังคำนึงถึงความปลอดภัยในสังคม มุ่งหวังที่จะส่งเสริมภูมิปัญาท้องถิ่น ผู้ผลิตสุรารายใหม่สามารถเข้าสู่ธุรกิจสุราได้ง่ายขึ้นและผู้ผลิตสุราขนาดเล็กรายเดิมสามารถเติบโตได้ภายใต้การกำกับดูแลเรื่องคุณภาพสุราและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องคำนึงถึงผลเสียของผู้บริโภคเป็นสำคัญด้วย

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การทำงานการเมืองของนายพิธา ควรกลัดกระดุมเม็ดแรกที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่มุ่งผลดีต่อพรรคตนเอง การออกมาวิจารณ์กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ได้รับฟังความคิดเห็นประชาชนมาแล้ว ออกมาบังคับใช้ปลดล็อกการผลิตเพี่อการค้าและการผลิตเพื่อบริโภค รวมถึงสามารถใช้ได้ทันที ทันสมัย รอบคอบ และที่สำคัญไม่ได้มีการตัดหน้าใคร แต่ตัดสินใจทำ เพื่อชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ