รักนี้แม่ไม่ปลื้ม หนุ่มพิการทางสมองหนีออกจากบ้าน ถูกจับได้โอนเงินให้สาวนาน 4 ปี

Home » รักนี้แม่ไม่ปลื้ม หนุ่มพิการทางสมองหนีออกจากบ้าน ถูกจับได้โอนเงินให้สาวนาน 4 ปี
รักนี้แม่ไม่ปลื้ม หนุ่มพิการทางสมองหนีออกจากบ้าน ถูกจับได้โอนเงินให้สาวนาน 4 ปี

เจอตัวที่โคราช หนุ่มพิการทางสมองเดินเท้าจาก จ.บุรีรัมย์ หวังไปหาสาวที่ จ.เพชรบูรณ์ หลังถูกฝ่ายหญิงบอกเลิก เหตุแม่จับได้ว่าโอนเงินให้สาวมานานกว่า 4 ปี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ได้รับแจ้งจาก นางอรอนงค์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ดงอีจาน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ว่า นายอนาวิน อายุ 22 ปี ลูกชายสติไม่สมประกอบ ได้หายออกจากบ้าน

หน่วยกู้ภัยฯ ได้นำกำลังออกค้นหาตามจุดที่คาดว่านายอนาวินจะเดินทางไป เดินหน้ากระดานออกค้นหาตามทุ่งนาหลายจุด แต่ไม่พบตัว ต่อมาหน่วยกู้ภัยได้ทำการไลฟ์สดพร้อมระบุว่าใครที่พบเห็นบุคคลตามในภาพให้ติดต่อกลับมาที่หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์

ต่อมาได้มีคนโทรศัพท์ติดต่อมาว่าพบชายที่ใบหน้าคล้ายกันกับที่ไลฟ์สด อยู่ที่บริเวณทางไปสวนสัตว์นครราชสีมา ห่างจากบ้านประมาณ 70 กิโลเมตร จากนั้นให้นางอรอนงค์มาดูภาพพบว่าเป็นลูกชายของตนเองจริง กู้ภัยจึงขอร้องให้ผู้พบเห็นเฝ้าดูก่อน หน่วยกู้ภัยพร้อมญาติจึงเดินทางไปรับตัว

เมื่อไปถึง นายอนาวิน ไม่ยอมกลับ ยืนยันจะเดินทางไปต่อ สุดท้ายหน่วยกู้ภัยบอกว่าจะรับเข้าทำงานที่หน่วยกู้ภัย นายอนาวินจึงยอมขึ้นรถ ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายอนาวิน ที่หนีออกจากบ้านมา ได้คำตอบว่าตนเดินเท้าออกจากบ้านตั้งแต่ตอนเช้ามืด เพื่อจะไปเจรจากับสาวที่ จ.เพชรบูรณ์ ถึงการบอกเลิก ประกอบกับแม่ไม่ให้เงินโอนให้สาว จึงน้อยใจหนีออกมา

นางอรอนงค์ เล่าว่า ลูกชายเคยประสบอุบัติเหตุ ทำให้มีความผิดปกติด้านสมอง เขียนหนังสือได้ แต่มีอาการเบลอๆ อยู่ตลอดเวลาพูดไม่ค่อยชัด ครอบครัวก็เลี้ยงดูอย่างดี จะเอาเงินให้ถือไว้ซื้อของที่ชอบครั้งละ 500 บาท 

เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ลูกชายได้เล่นไลน์ทางโทรศัพท์มือถือ แล้วมาขอเงินแม่ทุกวัน แต่ไม่ได้เอะใจ เพราะต้องการให้ลูกสบายใจอยากได้อะไรให้ซื้อได้ ให้เงินครั้งละ 300-500 บาทเป็นประจำ

ระยะหลังเล่นไลน์ผิดปกติ ตนจึงเข้าไปดูโทรศัพท์พบว่า ลูกชายคุยกับสาวคนหนึ่ง อยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ ทั้งสองฝ่ายไม่เห็นหน้ากัน และมาทราบว่าฝ่ายหญิงขอเงินเป็นประจำ

กระทั่งมาทราบว่าลูกชายจะให้เพื่อนบ้านโอนเงินให้ฝ่ายหญิง ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ฝ่ายหญิงเป็นคนขอเงิน ตนจึงทักไปว่าเป็นแม่ ไม่อยากให้ขอเงินลูกชายแบบนี้อีก เคยเตือนลูกแล้วแต่ไม่ฟัง สุดท้ายฝ่ายหญิงบอกเลิกถ้าไม่โอนเงินให้ จนกระทั่งลูกชายมาหายตัวดังกล่าว โชคดีที่ลูกไม่ได้รับอันตรายระหว่างการเดินทาง 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ