ในฤดูฝนคนที่เป็นภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ต้องระวังตัวกันให้มาก เพราะความชื้นทำให้เชื้อโรคเติมโตได้ไวเป็นพิเศษ และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในหน้าฝน ทำให้อุณหภูมิและความชื้น ไปกระตุ้นอาการของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกเกิดการอักเสบ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกรองสิ่งแปลกปลอมในอากาศ และการปรับอุณหภูมิอากาศก่อนเข้าสู่หลอดลม หรือระบบทางเดินหายใจลดลง

มักจะพบอาการ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม เจ็บคอ คันตา แม้ภูมิแพ้จะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง แต่หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาอาจกลายเป็น โรคภูมิแพ้เรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของ โรคหอบหืด และ ไซนัสอักเสบ อาการรุนแรงมากกว่า ภูมิแพ้ ทั้งหลอดลมหดเกร็ง มีเสมหะมาก หายใจมีเสียงวี้ด ไอหนักในตอนกลางคืน เหนื่อยหอบง่าย หากไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

สารก่อภูมิแพ้ที่เพิ่มขึ้นมากับละอองฝน และลม ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายตอบสนอง โดยการหลั่งสารเคมีที่เรียกว่า ฮีสตามีน (Histamine) ออกมา ซึ่งสารตัวนี้จะไปกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ หรือหอบหืดได้ สารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ไรฝุ่น สุนัข แมลงสาบ หญ้า ละอองเกสร สปอร์เชื้อรา

โดยจะทำให้เกิด อาการทั่วไป ได้แก่ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บคอ มีเสมหะ ระคายเคืองตา น้ำตาไหล และ อาการรุนแรง ผู้ป่วยอาจมีอาการ ใต้ตาบวมคล้ำ ผิวหนังอักเสบ มีผื่นขึ้น แน่นหน้าอก หายใจติดขัด พูดลำบาก

ซึ่งเจ้าสาร ฮีสตามีน (Histamine) คือสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของกระบวนการตอบสนองต่อภูมิแพ้ การติดเชื้อ หรืออันตรายที่เกิดขึ้น โดยสร้างอยู่ในเซลล์ทั่วร่างกาย เมื่อเซลล์ถูกทำลายหรือได้รับสารก่อภูมิแพ้ เซลล์ที่ผิวหนัง จมูก คอหอย และปอด จะทำการหลั่งสาร ฮิสตามีน ออกมาทำให้เกิดอาการปวด คัด แดง น้ำมูกไหล และหายใจมีเสียงวี๊ดได้ ฮิสตามีนยังมีบทบาทสำคัญในการย่อยอาหารโดยช่วยในการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร และยังช่วยควบคุมการนอนหลับอีกด้วย

• เช็กด่วน! วิธีรับสิทธิ “ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก” ผ่าน “แอปฯ เป๋าตัง”
• เช็คด่วน! 8 วิธี ดูแลสัตว์เลี้ยงยังไงให้ ปลอดภัย จากน้ำท่วม ทั้งคน และสัตว์
• อย่าชะล่าใจ!! อาการคันเท้า หลังจากลุยน้ำ อาจเป็น “โรคน้ำกัดเท้า”

สาเหตุของโรคภูมิแพ้ในฤดูฝน เกิดจาก

• สภาพอากาศเปลี่ยน : อุณหภูมิและความชื้นกระตุ้นให้โรคภูมิแพ้กำเริบ
•  ไรฝุ่น : เติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง มูลของไรฝุ่นเป็นสาเหตุก่อโรคภูมิแพ้
•  ขนสัตว์ : สารก่อภูมิแพ้จากโปรตีนในน้ำลาย และสะเก็ดรังแคบนเส้นขนของสัตว์
•  สปอร์เชื้อรา : เมื่อสูดสปอร์เชื้อราที่ลอยอยู่ในอากาศจะกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้
•  ละอองเกสรดอกไม้ : ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ และอันตรายมากสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด

วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ในฤดูฝน

• ปิดประตู และหน้าต่างขณะฝนตก เพื่อป้องกันละอองเกสร สปอร์เชื้อรา และฝุ่นที่มากับลม ลอยเข้ามาในบ้าน
• หมั่นทำความสะอาดบ้าน ที่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง รวมถึงซักเครื่องนอนให้สะอาดอยู่เสมอ
• หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมกลิ่นแรง ๆ ควันบุหรี่ ควันธูป ควันรถ
• รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
• หากโดนละอองหรือตากฝน ควรรีบอาบน้ำสระผม เช็ดตัวเช็ดผมให้แห้งโดยไว
• หมั่นทำความสะอาดบ้าน โซฟา พรม โดยเฉพาะบริเวณใต้เตียง ใต้ตู้ และใต้ผ้าม่าน ที่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง รวมถึงซักเครื่องนอนให้สะอาดอยู่เสมอ

สำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้อากาศ แนะนำควรเข้าพบแพทย์เฉพาะทาง เพราะการซื้อยามารับประทานเองอาจเป็นอันตรายต่อเยื่อจมูกได้ ทางที่ดีควรให้แพทย์ตรวจวินิจฉัย และจ่ายยาให้ตามลักษณะอาการของบุคคล หากสังเกตว่ามีอาการภูมิแพ้รุนแรงผิดปกติ เช่น แน่นหน้าอก หายใจติดขัด พูดลำบาก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างเหมาะสม

ข้อมูลจาก sikarin