รวบลูกอดีตผู้ใหญ่บ้าน เมากราดยิงหนุ่ม 18 ถูกลูกหลงเจ็บ อ้างคึกคะนองเพราะเมา อยากโชว์พาวเจ้าถิ่น พบประวัติเพิ่งพ้นคุกมา 1 เดือน

จากกรณีคนร้ายขับรถเก๋งใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด กราดยิงกลุ่มวัยรุ่นไปเที่ยวงานบุญฉลองกฐินที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม หลังหมอลำซิ่งคณะดังเลิกแสดง ทำให้นายวายุ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ที่กำลังซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับกลุ่มเพื่อนเพื่อจะกลับบ้าน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 พ.ต.อ.ชัยทัศน์รัศมิ์ พรหมศิริ ผกก.สภ.นาหว้า จ.นครพนม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าจับกุมนายตรีชัย จำรักษา หรือหนุ่ม อายุ 40 ปี ลูกชายอดีตผู้ใหญ่บ้าน ขณะกบดานภายในบ้านเลขที่ 217 หมู่ 6 บ.หนองดุด ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ.158/2565 ลงวันที่ 31 ต.ค. 2565

ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็น และเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน

โดยตรวจยึดของกลางรถยนต์เก๋งสีแดงที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมอาวุธปืนขนาด .380 แบบไทยประดิษฐ์ ที่ซุกซ่อนไว้ในบ้านพัก ขณะเข้าจับกุมนายตรีชัย ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง อ้างว่าทำไปด้วยความคึกคะนองจากอาการมึนเมา ต้องการโชว์ความเป็นเจ้าถิ่น ส่วนอาวุธปืนซื้อมาจากเพื่อนราคา 2,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.นาหว้า ตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมคดียาเสพติด เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ 1 ปี ชอบทำตัวเป็นนักเลงประจำหมู่บ้าน หลังสอบปากคำเสร็จจึงคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ

นางดอกรัก (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี แม่หนุ่มวัย 18 ปี ที่บาดเจ็บสาหัส กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับลูกชายที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานรับจ้างทั่วไปหารายได้มาดูแลยายกับตา ลูกคนนี้ไม่เคยไปทำร้ายใคร ขอให้คนก่อเหตุได้รับโทษหนักที่สุด

นางดอกรัก กล่าวต่อว่า ส่วนอาการบาดเจ็บยังไม่พ้นขีดอันตราย เกรงว่าลูกจะพิการ เนื่องจากกระสุนฝังที่ปอด และใกล้จุดสำคัญ แพทย์ไม่สามารถผ่าหัวกระสุนปืนออกได้ อยากให้เร่งส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลที่มีแพทย์เชี่ยวชาญ หวั่นอาการจะทรุดหนัก ยังไม่รู้จะหายเป็นปกติหรือไม่