สืบนครบาลรวบ ‘โค้ชจอห์น100ลีลา’ ครูเทรดหุ้นสายมู หลอกทำบุญกฐิน ซื้อพระ ซิมมงคล พบผู้เสียหายกว่า 100 รายรุมแจ้งจับ หลังสร้างความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันที่ 26 พ.ย. 65 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ , พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี , พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ ร.ต.อ.ธนพล มโนสร และเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. จับกุม นายกรัณย์กฤษฏิ์ ชวดชุม หรือปอ หรือ “โค้ชจอห์น 100 ลีลา” อายุ 36 ปี
ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 214/2565 ลงวันที่ 28 มี.ค.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” พร้อมของกลางบัตร ATM จำนวน 2 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม สำเนาสลิปที่เกี่ยวข้อง 2 แผ่น โทรศัพท์ 1 เครื่อง เอกสารระบุสัญญาร่วมลงทุน จำนวน 1 ชุด /4ใบ เอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 1 ชุดจับกุมตัวได้บริเวณริม ถ.ประตูขาว ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา
สืบเนื่องผู้เสียหายรวมตัวกันกว่า 140 ราย ขอความช่วยเหลือทางเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ให้ช่วยจับกุมตัว โค้ชจอห์น 100 ลีลา มีอาชีพเป็นครูสอนเทรดหุ้น แต่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท จากการตรวจสอบทราบว่า เริ่มเดินสายฉ้อโกงทางออนไลน์ เปลี่ยนถิ่นที่อยู่เพื่อปกปิดตัวตน กระทั่งได้ผันตัวมาเป็นครูสอนเทรดหุ้น โดยใช้ชื่อเรียกตนเองว่า โค้ชจอห์น
โดยเนื้อหาที่สอนนั้น มีเพียงคลิปวีดิโอ 4 คลิป เป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไป กระทั่งมีผู้หลงเชื่อไม่ต่ำกว่า 140 คน แถมยังเดินสายฉ้อโกงทางออนไลน์โดยใช้ความเชื่อทางศาสนาหลอกลวงผู้คนไปด้วย เช่น หลอกซื้อขายเช่าบูชาพระ , ขายซิมโทรศัพท์เบอร์มงคล , กจัดทำบุญกฐิน
จากการสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธทุกข้อหา โดยให้การในชั้นจับกุมว่า จบ ป.ตรี คณะรัฐศาสตร์ หลังเรียนจบได้ทำงานเป็นพนักงานจัดซื้อจนถึงปี 52-53 ก็ได้ผันตัวมาเป็นพ่อค้าออนไลน์ และทำธุรกิจอีกหลายอย่าง กระทั่งได้เริ่มเข้าสู่การเทรดหุ้น แต่ด้วยราคาหุ้นตกทำให้ตนไม่มีเงินไปคืนคนอื่น จึงตัดสินใจตัดช่องทางการติดต่อ โดยมีบางรายได้จ่ายเงินชดใช้เป็นเช็คเงินสด แต่ก็เป็นเช็คม่สามารถสั่งจ่ายได้
ส่วนการฉ้อโกงขายพระนั้นอ้างว่าเป็นคนมีความรู้เรื่องพระ ไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกงและการย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ใน จ.เชียงใหม่ นั้นเนื่องจากคนรู้จักให้ไปใช้ชื่อเป็นเจ้าบ้าน และปัจจุบันที่มาอยู่ที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช นั้นตนไม่ได้หลบหนี แต่ยังไม่มีเงินไปคืนให้กับผู้เสียหาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อส่งศาลต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากคำให้การในชั้นจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบพยานข้อมูลเสียหายและข้อมูลจากการสืบสวนนั้นขัดแย้งกัน คนร้ายรายนี้หลอกนักลงทุนหุ้น หลอกลวงขายพระเครื่อง ซึ่งต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการหลอกลวง และใช้ความเชื่อเรื่องศาสนา หลอกลวงมาไม่ต่ำกว่า 4 ปี มีความชำนาญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายนักลงทุนหุ้นหน้าใหม่ถึงขนาดยอมนำเงินมาให้คนร้ายรายนี้เทรดให้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่ถูกหลอกแจ้งผ่านเพจ บก.สส.บช.น. หรือท้องที่แจ้งความเพื่ออายัดตัวดำเนินคดี
ส่วนท่านใดเมื่อใดถูกชักชวนให้ลงทุนใด ๆ ให้ตรวจสอบผ่านทางอินเตอร์เน็ตว่า มีชื่อหรือบัญชีธนาคารดังกล่าว แจ้งเตือนอยู่ในกลุ่มผู้หลอกลวงหรือไม่ เพื่อยืนยันก่อนทุกครั้ง และขอฝากว่าหากพบเบาะแสอื่น สามารถแจ้งเข้ามาที่เพจ สืบสวนนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มากแต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.
จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติของผู้ต้องหา พบหมายจับจำนวน 4 หมาย คือ หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 88/2565 ลงวันที่ 30 ก.พ. 65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน ”, หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 214/2565 ลงวันที่ 28 มี.ค.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ”,หมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 194/2564 ลงวันที่ 7 ก.ค.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอก”, หมายจับศาลแขวงกระบี่ ที่ 5/2565 ลงวันที่ 10 ม.ค.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง ปลอมเอกสาร และใช้หรืออ้างเอกสารปลอม” ท้องที่ สภ.อ่าวนาง ภ.จว.กระบี่