จากรณีเหตุการณ์ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.ตรัง ครูใช้นักเรียนรายหนึ่งปิดสวิตช์ตู้น้ำดื่มขณะที่ฝนกำลังตก เป็นเหตุให้ เด็กนักเรียนโดนไฟดูด เสียชีวิตคาตู้น้ำดื่ม แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเพราะกลัวโดนไฟดูดไปด้วย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหลายๆมุมเกิดขึ้น
ล่าสุด วันที่ 24 มิ.ย. 2567 ที่ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลบ่อน้ำร้อน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เด็กนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ร่วมกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียน และเกิดฝนตกหนัก ทำให้ทั่วบริเวณโดยเฉพาะบริเวณที่ติดตั้งตู้ทำน้ำดื่ม ซึ่งปัจจุบันไม่มีการใช้งานมานานหลายปี แม้จะมีหลังคาก็ตามเจิ่งนองไปด้วยน้ำ จึงทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วจากตู้ทำน้ำดื่มดังกล่าว จนเกิดไฟดูด นร.ที่เดินผ่านมาเสียชีวิต จนเพื่อนอีก 1 คน บาดเจ็บ สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้แก่ครอบครัว ญาติพี่น้อง รวมทั้งครูอาจารย์ และเพื่อนๆนักเรียนเป็นอย่างมาก
ในวันนี้โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติพบว่า นักเรียนกว่า 300 คน ได้เดินทางมาเรียนตามปกติ ขณะที่ครู อาจารย์ ผู้บริหารและบุคลากรของโรงเรียนทั้งหมด ร่วมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาว สีดำ เพื่อไว้ทุกข์ให้แก่การจากไปของน้องๆ โดยทุกคนยังอยู่ในความเสียใจ และขวัญเสียจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทุกคนได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้แก่น้องที่จากไป
ด้านนายมนัส ผู้อำนวยการโรงเรียน ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกหลังเหตุการณ์ ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ สลับร่ำไห้ ว่า ตนย้ายมาเป็นประจำที่นี่ได้เกือบสองปีแล้ว โดยตู้ทำน้ำดื่มนี้ติดตั้งมานาน และไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว เดิมมีแนวคิดจะซ่อมแซมให้สามารถกลับมาใช้งานได้ดังเดิม เพื่อให้นักเรียนได้มีน้ำใช้ โดยตั้งงบไว้ประมาณ 100,000 บาท แต่มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อน ก็จะไม่ซ่อมแล้ว จะรื้อทิ้งเลย เพียงแต่ตอนนี้ยังเป็นวัตถุพยานทางคดี ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบตามขึ้นตอนของกฎหมายให้แล้วเสร็จก่อน จากนั้นจะเร่งตั้งคณะกรรมการตามระเบียบราชการเพื่อรื้อทิ้งต่อไป
- สาว วอนโซเชียลช่วย หลังแจ้งความกับ ตำรวจ แต่คดีไม่คืบ
- บิ๊กโจ๊ก ไม่จบ! ยื่นคำร้องบางอย่าง ที่ศาลอาญา กรุงเทพใต้ เอี่ยว บิ๊ก ตร.
- สลด! นักเรียนชาย ม.6 โรงเรียนชื่อดัง พลัดตกอาคารเรียน ชั้น 9 เสียชีวิต
“ใจจริงอยากจะรื้อเลย แต่ยังทำไม่ได้ต้องรอให้กระบวนการทางกฎหมายเสร็จสิ้นก่อน และต้องปฎิบัติตามระเบียบราชการ และขอบอกว่า ส่วนตัวไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน คุณครูทุกคนก็ช็อกกันหมดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวก็รู้สึกว่าดูแลเด็กไม่ได้ โดยได้บอกกับครอบครัวน้องไปว่า ผมเสียใจ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วก็ต้องเดินหน้ากันต่อ” ผอ.โรงเรียน กล่าว
นานมนัส กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สำหรับน้องผู้เสียชีวิตยังมีพี่ชายอีกหนึ่งคนเรียนอยู่ชั้น ม. 4 ตนตั้งใจว่าจะดูแลพี่ชายของน้องจนจบชั้น ม. 6 และเมื่อคืน (23มิ.ย.) ก็ได้ หารือกับทาง ผอ.เขตพื้นที่มัธยมศึกษา เขต 13 ตรัง กระบี่ว่า จะสนับสนุนให้พี่ชายของน้องได้เรียนต่อจนถึงระดับปริญญาตรี โดยจะดูแลทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อเป็นการเยียวยา บรรเทาทุกข์ ตามสมควร
นานมนัส กล่าวอีกว่า โดยในวันเกิดเหตุถ้าไม่มีใครเห็นภาพ จะไม่รู้ว่าวันนั้นมีฝนตกแล้วก็ลมพัดแรง สภาพพื้นที่ใกล้กับตู้น้ำเต็มไปด้วยน้ำฝน จึงเกิดไฟรั่วออกมา แต่ตอนนี้ตัดสายไฟที่เกี่ยวข้องกับตู้นี้ออกทั้งหมดแล้ว ไม่เป็นอันตรายแล้ว สำหรับเด็กนักเรียนขณะนี้ไม่ได้ดื่มน้ำจากตู้นี้ แต่ซื้อน้ำดื่มจากร้านค้าสวัสดิการของโรงเรียนขวดละ 4 บาท เนื่องจากสภาพน้ำที่นี่มีหินปูนจำนวนมาก มีสนิม หากไม่มีระบบกรองน้ำที่ได้มาตรฐานจะไม่ปลอดภัย จะเป็นอันตรายกับนักเรียน จึงตัดสินนำน้ำที่สะอาดปลอดภัยกว่ามาให้นักเรียนได้ดื่มกิน