รมว.ทรัพย์ฯ เหน็บ ร่าง รธน. ฉบับประชาชน ของแท้ต้อง 67 ล้าน ไม่ใช่แค่แสนคน

Home » รมว.ทรัพย์ฯ เหน็บ ร่าง รธน. ฉบับประชาชน ของแท้ต้อง 67 ล้าน ไม่ใช่แค่แสนคน


รมว.ทรัพย์ฯ เหน็บ ร่าง รธน. ฉบับประชาชน ของแท้ต้อง 67 ล้าน ไม่ใช่แค่แสนคน

ชาติไทยพัฒนา ประชุมใหญ่ประจำปี “กัญจนา” หวังเลือกตั้งครั้งหน้าได้ผู้แทนหลายจังหวัดมากขึ้น “วราวุธ” ลั่นรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน ของแท้ต้องมาจาก 67 ล้านคน

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานสาขาพรรคชาติไทยพัฒนา อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนาจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 โดยมีแกนนำพรรค กรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง นำโดย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค นายนิกร จำนง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรค นายจองชัย เที่ยงธรรม สมาชิกพรรค และอดีตรมว.แรงงาน นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด อดีต รมว.วัฒนธรรม

โดยน.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวเปิดประชุมตอนหนึ่งว่า น้ำในปีนี้มากกว่าทุกปีที่ผ่าน อาจเกิดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ปีหน้าน้ำอาจจะมากกว่านี้ก็ได้ จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันเตรียมพร้อมไว้ด้วย ส.ส.ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือกันเต็มที่ ดังนั้น หวังว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคชาติไทยพัฒนาจะมีโอกาสได้ผู้แทนหลากหลายจังหวัดมากขึ้นนอกเหนือจาก จ.สุพรรณบุรี เพราะพรรคเราไม่ได้เป็นพรรคของคนสุพรรณบุรีเท่านั้น แต่เป็นของคนทั้งประเทศ

จากนั้นได้เข้าสู่วาระการประชุม โดยที่ประชุมได้มีมติรับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563, แต่งตั้งผู้สอบบัญชีปี 2564 แผนหรือโครงการที่จะดำเนินกิจกรรมในปี 2564-2565 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 23, แผนและโครงการที่ได้รับการอุดหนุนจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองปี 2564, แผนและโครงการที่ดำเนินการโดยเงินของพรรค, รายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2563, พิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค, การเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค และการดำเนินงานของพรรคในฐานะฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติตามนโยบายพรรค

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรค กล่าวในที่ประชุมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ได้มีการพิจารณาถึงการกำหนดนโยบายที่จะใช้ในการเลือกตั้ง โดยมี 6 นโยบาย ได้แก่ 1.นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคน นอกจากนั้นจะเน้นนโยบายเกี่ยวกับข้าวและชาวนา 2.การเดินหน้าทำประชามติเพื่อขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมหากการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ทั้งนี้ ประเด็นในการแก้ไขจะให้สิทธิประชาชนเป็นผู้พิจารณา เพราะเชื่อว่าการเปิดโอกาสให้ประชาชนส่วนร่วมจะแก้ปัญหาการเมืองของประเทศได้ 3.การกระจายอำนาจต้องเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการกระจายอำนาจให้ อบต. อบจ. 4.ด้านสังคม จะเน้นในเรื่องการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น 5.นโยบายด้านเศรษฐกิจที่เป็นจริง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว และ6.ด้านการศึกษา

นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ได้ถามพวกเราแล้วหรือยังว่าเห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวหรือไม่ แล้วบอกได้อย่างไรว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพราะหลายร้อยชีวิตที่นั่งอยู่ในที่ประชุมใหญ่พรรควันนี้ก็ยังไม่ได้ถูกถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่แท้จริง ต้องฟังเสียงจากประชาชนทั้ง 67 ล้านเสียงทั่วประเทศ ไม่ใช่เพียงหนึ่งแสนหรือสองแสนคน เราไม่ต้องมานั่งโม้หรือประดิษฐ์คำสวยงามต่อว่าคนนั้นคนนี้ เราเน้นทำงาน

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะรัฐบาลและสภาชุดนี้จะหมดวาระในวันที่ 23 มี.ค.66 หรืออีกปีกว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า เราตั้งเป้าได้ ส.ส. 30 คน เราสองพี่น้อง ตน และ น.ส.กัญจนา เคียงบ่าเคียงไหล่ฝ่าศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตแทบตาย จนเกือบเอาตัวไม่รอด แต่เราก็ได้มา 12 คน เรายังไม่ใช่พรรคการเมืองใหญ่ จะทำการเมืองแบบเร่งรีบไม่ได้ เพราะมาเร็ว มาแรง ก็ไปเร็ว ไปแรง การทำงานของ ชทพ.จะค่อยๆ ทำงาน และค่อยๆ เติบโต

“2 พี่น้องศิลปอาชายังยืนยืนว่าจะอยู่กับการเมือง และชทพ.ต่อไป ต่อให้ดินกลบหน้าก็จะไม่หนีไปไหน ตอนนี้ผมอายุ 48 ปี ส่วนหัวหน้าพรรคก็ใกล้จะแซยิด คงทำงานการเมืองไม่นานก็ลากันไป ผมเกิดมาพร้อมกับ ชทพ. และก็จะตายพร้อม ชทพ. ขอทำงานอีก 40 ปีก็จะพัก แต่ตอนนี้ผมขอให้คำมั่นว่าจะอยู่กับ ชทพ. ซึ่งไม่ใช่พรรคใหญ่ แต่เป็นครอบครัวใหญ่” นายวราวุธ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ