รมว.ต่างประเทศรัสเซียเผย ไม่มีใครใน จี 20 ร่วมคว่ำมอสโก ยกเว้นตะวันตก-ลิ่วล้อ

ว้นที่ 15 พ.ย. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เรียกร้องให้ผู้นำโลก “จี 19” ยุติการรุกรานของรัสเซีย โดยเป็นการดูแคลนรัสเซียที่การประชุมสุดยอด จี 20

นายเซเลนสกีปรากฏตัววิดีโอสุนทรพจน์ที่ส่งถึงผู้นำจี 20 ที่การประชุมสุดยอดในนครบาหลีของอินโดนีเซีย และยังเรียกร้องการขยายข้อตกลงส่งออกธัญพืชของยูเครนเนื่องจากจะมีกำหนดสิ้นสุดในไม่ช้านี้

รัสเซียเป็นสมาชิกจี 20 แต่ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ไม่ได้เข้าร่วมในนครบาหลี โดยส่งนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นตัวแทน

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวหลายแขนงเห็นร่างแถลงการณ์ของจี 20 ระบุว่า ประเทศส่วนใหญ่ประณามอย่างแข็งกร้าวซึ่งสงครามยูเครนและเห็นด้วยว่าสงครามยูเครนกำลังทำให้ความเปราะบางในเศรษฐกิจโลกรุนแรงขึ้น

ร่างแถลงการณ์ย้ำเน้นว่า การใช้และการขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ “ไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้” แต่นายลาฟรอฟระบุว่า แถลงการณ์ถูกพันธมิตรตะวันตกของยูเครนทำให้เป็นการเมือง

นายเซเลนสกีพูดในวิดีโอสุนทรพจน์ว่า “ผมเชื่อว่าตอนนี้เป็นเวลาที่สงครามทำลายล้างของรัสเซียต้องสามารถหยุดยั้งได้” และสรุปยุทธศาสตร์จำนวนหนึ่ง รวมถึงการประกันความปลอดภัยของนิวเคลียร์และอาหาร การยุติความเป็นปรปักษ์ และการป้องกันการยกระดับความตึงเครียด และกล่าวซ้ำๆ กับผู้นำที่การประชุมว่า “จี 19” เพื่อไม่รวมถึงรัสเซีย

ประเด็นหลักในคำร้องขอของนายเซเลนสกีคือการขยาย “ความริเริ่มธัญพืชทะเลดำ” ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างสหประชาชาติและรัสเซียเมื่อเดือนก.ค. เพื่อทำให้แน่ใจว่า การส่งออกอาหารที่ถูกเรือรบรัสเซีปิดกั้นที่ท่าเรือหลายแห่งของยูเครนจะสามารถส่งออกได้

สหประชาชาติระบุว่า ตั้งแต่ข้อตกลงเริ่มต้น มีการส่งออกธัญพืชและอาหารอื่นๆ รวมเป็น 10 ล้านตันเพื่อป้องกันวิกฤตอาหารโลก แต่ข้อตกลงมีกำหนดสิ้นสุดวันที่ 19 พ.ย. ที่จะถึงนี้ นายเซเลนสกีกล่าวว่า ควรต่ออายุข้อตกลงอย่างไม่มีกำหนด

“ไม่ว่าสงครามสิ้นสุดเมื่อไร สิทธิเข้าถึงอาหารเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคนในโลกนี้” นายเซเลนสกีกล่าวโดยเสนอขยายข้อตกลงไปท่าเรืออื่นๆ ในแคว้นมีโคลาอิฟ

ขณะที่รัสเซียกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 11 พ.ย. ว่า ยังไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่จะขยายข้อตกลง และรัสเซียยืนกรานที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตกเพื่อให้รัสเซียสามารถส่งออกอาหารและปุ๋ยของตัวเองไปตลาดโลกโดยปราศจากอุปสรรคได้ เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ยูเครนส่งออกอาหารของตัวเอง

นายเซเลนสกียังกล่าวหารัสเซียพยายามที่จะเปลี่ยนความหนาวเย็นเป็นอาวุธต่อต้านประชาชนนับล้านคน โดยระเบิดโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานยูเครน ขณะที่ฤดูหนาวใกล้เข้ามา และนายเซเลนสกีขอความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่มเติมจากพันธมิตรของยูเครน และขอจำกัดด้านราคาสำหรับการส่งออกพลังงานของรัสเซียจนรัสเซียไม่สามารถทำกำไรได้

“หากรัสเซียกำลังพยายามลิดรอนยูเครน ยุโรป และผู้อุปโภคพลังงานทั้งหมดในโลกของการคาดการณ์และเสถียรภาพด้านราคา คำตอบต่อเรื่องนี้ควรเป็นการบังคับจำกัดราคาส่งออกสำหรับรัสเซีย… ยุติธรรมดี หากคุณเอาอะไรออกไป โลกก็มีสิทธิ์ที่เอาไปจากคุณ” นายเซเลนสกีกล่าว

รัสเซียปิดท่อส่งแก๊สนอร์ดสตรีม 1 ไปยุโรป ขณะที่ตะวันตกยับยั้งการเปิดท่อแก๊สนอร์ดสตรีม 2

ในการปราศรัย นายเซเลนสกีเปรียบเทียบการปลดปล่อยเมืองเคอร์ซอนที่ยูเครนยึดคืนมาและนายเซเลนสกีเพิ่งไปเยือนไม่นานนี้กับ ดีเดย์ หรือวันที่สัมพันธมิตรยกพลขึ้นบนในนอร์มังด์ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง

“ยังไม่ได้จุดสิ้นสุดในการต่อสู้กับความชั่วร้าย แต่กำหนดเหตุการณ์ต่อไปทั้งหมดแล้ว เป็นสิ่งที่เรากำลังรู้สึกตอนนี้” นายเซเลนสกีกล่าว

ภายหลังในวันเดียวกันนั้น นายลาฟรอฟแถลงข่าวต่อสื่อรัสเซีย โดยประณามยูเครนาขัดขวางในการทำข้อยุติกับรัสเซีย และกล่าวหายูเครนปฏิเสธการเจรจาอย่างสิ้นเชิงและเสนอเงื่อนไขที่เห็นได้ชัดว่าไม่สมจริง

เมื่อถูกถามว่าได้รับการสนับสนุนจากทุกประเทศในการประชุมสุดยอดจี 20 หรือไม่ นายลาฟรอฟกล่าวว่า “ไม่มีใครร่วมคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซียยกเว้นตะวันตกและบริวารใกล้ชิดที่สุดของตะวันตก”

ทั้งนี้ สงครามยูเครนโดดเด่นตลอดวันแรกของการประชุมสุดยอดของผู้นำจี 20 โดยเป็นหัวข้อในการประชุมหลายครั้ง ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ย้ำในการประชุมนอกรอบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนว่า ต้องเอาชนะสงครามยูเครนด้วยการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างฝรั่งเศสและจีน

บันทึกข้อมูลจากฝรั่งเศสระบุว่า ทั้งสองประเทศเคารพบูรณภาพดินแดนและอธิปไตยแห่งยูเครน และประธานาธิบดีสีให้การสนับสนุนแก่ความพยายามเพื่อสันติภาพของประธานาธิบดีมาครง แต่บันทึกข้อมูลจากจีนที่เผยแพร่ทางสื่อทางการกลับไม่ได้ระบุคำว่ายูเครนเลย กลายเป็นการอ้างอิงที่คลุมเครือถึงความขัดแย้งโดยยอมรับว่า โลกกำลังเข้าสู่ “ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายและการเปลี่ยนแปลงใหม่”

ด้านนายกรัฐมนตรีริชี ซูนัค ผู้นำสหราชอาณาจักร ยังพูดคุยโดยตรงกับนายลาฟรอฟ ในการกล่าวเปิดการประชุมที่การประชุมสุดยอดจี 20 นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำอังกฤษเผชิญหน้ากับบุคคลระดับสูงของรัสเซียตัวต่อตัวตั้งแต่สงครามยูเครนเปิดฉาก

นายซูนัคกล่าวว่า “ระบอบการปกครองของปูติน…ระงับความขัดแย้งภายในประเทศ และสร้างเกราะป้องกันความถูกต้องผ่านความรุนแรงเท่านั้น” และกำลังได้ยิน “กลุ่มคนต่อต้านการกระทำของรัสเซียทั่วโลก”