อีกหนึ่งเรื่องราวที่ยิ่งกว่าละครกับเรื่องราวความรักของสาวไทยที่ได้ไปพบกับหนุ่มอิตาลีทางออนไลน์ ก่อนกลายเป็นความรัก ที่มีการลองใจ บอก ‘ผมจนนะ’ ก่อนเฉลยพีกที่แท้เป็นลูกประธานบริษัท
เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก หลังจากที่ผู้ใช้ติ๊กต็อก sarah_seba หรือ คุณซาราห์ ได้โพสต์เรื่องราวความรักของตนกับแฟนหนุ่มอิตาลีมาดเข้ม จากรักทางไกลที่ต้องคบหาดูใจกันผ่านวิดีโอคอล พร้อมกับเรื่องราวการลองใจคนรัก โดยเธอได้โพสต์คลิปเล่าเรื่องพร้อมกับข้อความระบุว่า “เมื่อสามีแกล้งจนลองใจ”
โดยคุณซาราห์ได้เล่าว่าตอนแรก ๆ ที่คุยกันนั้นหนุ่มอิตาลีรายนี้ได้บอกกับเธอว่าเขานั้นเป็นแค่พนักงานบริษัททำความสะอาดคนหนึ่ง จนไม่ได้มีเงินมากเหมือนกับใครเขา จะรับได้ไหม แน่นอนว่าคุณซาราห์ก็รับได้ และตอบไปว่ารวยจนไม่สำคัญ เราช่วยกันสร้างเดี๋ยวก็รวย และเธอก็เห็นว่าหนุ่มอิตาลีคนนั้นต้องทำงานหนักทุกวัน เพื่อเก็บเงินมาไทย
และตลอดระยะเวลาที่ทั้งคู่นั้นคุยกับ ทั้งสองก็ให้กำลังใจกันและกันทุกวัน ก่อนที่คุณซาราห์จะเซอร์ไพรส์หนุ่มอิตาลีรายนี้ด้วยการส่งดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเขา ทำเอาหนุ่มอิตาลีน้ำตาซึม เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำแบบนี้ให้มาก่อน
เมื่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่เดินทางมาได้ถึงระยะหนึ่ง แฟนหนุ่มอิตาลีก็ได้ตัดสินใจบอกความจริงว่า แท้จริงแล้วเขาเป็น ‘ลูกชายประธานบริษัท’ และที่เขาสารภาพก็ในตอนนั้นเขาเห็นคุณซาราห์เครียดเรื่องเงินหลังจากที่รายได้ของเธอลด เพราะต้องเผชิญกับปัญหาจากโควิด ก่อนที่เขาจะให้ความช่วยเหลือเธอทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่ยังไม่เคยเจอกันมาก่อน
จนในที่สุดชีวิตรักของทั้งคู่ก็ไปถึงจุดสูงสุด คุณซาราห์และแฟนหนุ่มได้ตัดสินใจแต่งงานกัน และกลายเป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย บอกเลยว่าหลังจากที่คุณซาราห์ได้นำเรื่องราวชีวิตรักของเธอออกมาเผยแพร่ก็กลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืน มีคนเข้ามาดูคลิปแล้วกว่า 2.9 ล้านครั้ง และยังมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม
ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความยินดีกับคุณซาราห์ในครั้งนี้ พร้อมกับชื่นชมว่าเธอนั้นเป็นคนดี ที่ไม่มองคนจากฐานะ หรือเงินทอง ทำให้ในที่สุดเธอก็ได้คนดี ๆ เข้ามาในชีวิต บ้างก็เข้ามาเขิน และแซวคุณซารห์ว่าชีวิตอย่างกับในละคร พร้อมกับอวยพรให้เธอมีความสุขมาก ๆ ขึ้นไป
@sarah_seba เมื่อสามีแกล้งจนลองใจ😅 #สายฝอ #แฟนฝรั่ง #แฟนอิตาลี #รักออนไลน์มีอยู่จริง #ขอให้ขึ้นหน้าฟีด #ลูกท่านประธาน
♬ เสียงต้นฉบับ – Ohm – Ohm
ที่มา : tiktok