“หม่องชิดตู-ตู้ห่าว ท้าทายระบบอิ๊งค์?” ทีมรัฐบาลไทยขยับพูด ด้านเท้งแนะตรงไปตรงมา ให้สังคมสิ้นสงสัย

จังหวะ “รัฐบาลอิ๊งค์” กำลังเดินหน้ากับการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ในเมืองบาปตามแรงกดดันของรัฐบาลจีนอย่างขึงขัง จากตัดน้ำตัดไฟตัดสัญญาณเน็ตมาสู่การกวาดล้างขบวนการไม่ว่าเจ้าหน้าที่ไทยหรือเจ้าหน้าที่ในกองกำลังกะเหรี่ยง อย่างที่มีแอ็คชั่นของดีเอสไอกับการเตรียมออกหมายจับผู้พันเอก ซอชิตตู่ (Colonel Saw Chit Thu)หรือ พันเอก หม่องชิต ตู่, พันโท โมเต โธน (Lieutenant Colonel Mote Thone)และพันตรี ทิน วิน (Major Tin Win) ผู้นำกองกำลัง BGF หรือผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงกองกำลังสำคัญที่ปกครองเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ในคดีค้ามนุษย์ ชาวอินเดีย ซึ่งถูกนำตัวไปบังคับทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ที่เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ผู้คนในรัฐบาลได้ตั้งแต่ “รองนายกฯอ้วนภูมิธรรม” จนถึง “รมว.ยุติธรรม ทวี สอดส่อง” ออกมาขยับพูดถึงความคืบหน้า ในการเตรียมออกหมายจับ โดยระบุเป็นคดีนอกราชอาณาจักรอัยการ-ดีเอสไอ สอบสวนมานานแล้ว…แม้จะมีการตอบโต้มาจาก “หม่องชิดตู” ที่ปฏิเสธไม่ได้นำคนต่างชาติเข้าสู่เมียนมา แต่แฉว่าจะมาทางไหน ประเทศไทยก็รู้ดี

ที่ประเด็นนี้ “เท้ง-ผู้นำฝ่ายค้าน” แนะ “นายกอิ๊งค์“ ว่าทางออกคือการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าฝั่งนั้นจะมีข้อกล่าวอ้างอย่างไร ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมาบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นอะไร ส่วนจะนำเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ต้องรอดู ยังให้อะไรมากไม่ได้และย้ำว่าสังคมจะสิ้นสงสัย หากนายกอิ๊งค์ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ให้ข้อมูลสังคมอย่างโปร่งใสแสดงการมีส่วนรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และควรมาชี้แจงต่อสภาด้วยตัวเอง

เรียกว่าความชัดเจนในการจัดการปัญหา “ขบวนการค้ามนุษย์” ที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเมียนมาของรัฐบาลไทยยังคงถูกมองอย่างระแวงจากหลายฝ่ายหลังเคสการตัดไฟที่มีภาพการ“ดึงเช็ง” โยนกันไปมาจนจีนต้องส่งคนมากดดัน และกำลังถูกจับตาในเคสคดีของ “หม่องชิดตู” โดยกำลังถูกเทียบเคียงคดีของ “ตู้ห่าว” ต้นตำรับ“ขบวนการจีนเทา”ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวพ้นเรือนจำ พร้อมอดีตภรรยานายตำรวจหญิงเทื่อคืน หลังศาลอาญายกฟ้อง คดีอาชญากรรมข้ามชาติ-ยาเสพติด-ฟอกเงิน เมื่อวันที่ 11 ก.พ.68

โดยเคสของ “ตู้ห่าว” กำลังเป็นประเด็นที่ถูกสังคมวิจารณ์ การได้การตัดสินยกฟ้องพร้อมพวก 19 คน ทุกข้อกล่าวหาทั้งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และฟอกเงิน จากคดีที่ถูกตำรวจนครบาลจับกุมดำเนินคดีข้อหาเปิดผับจินหลิง ย่านสาทร โดยเฉพาะเคสของตู่ห่าวมีตัวละครจอมแฉอย่าง “ชูวิทย์” รวมถึง “บิ๊กโจ๊ก” ที่เกาะติดคดีจนสู่การส่งฟ้องต่อศาล จนเกิดความขัดแย้งกีบ “บิ๊กสีกากี” เหตุเพราะมีความพยายามจากทุนจีนเทาแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรมอย่างชัดเจนกระทั่งมาถึงจุดสรุปคดีเมื่อวาน ที่ทั้ง ชูวิทย์ และ บิ๊กโจ๊ก ออกมายอกว่าไม่ผิดคาด เพราะคดีมีช่องโหว่สำนวนอ่อนมาตั้งแต่ชั้นพนักงงานสอบสวน

• “ภูมิธรรม” ฮึ่ม กฟภ.ตัดไฟเมียนมา “ทันที” ตัดได้เลยไม่ต้องรอ อย่ามัวขายไฟ ได้ไม่คุ้มเสีย!
• ชูวิทย์ หอบข้อมูลเด็ดมอบ รังสิมันต์ โรม ฉะทุนจีนสีเทา-เช็กบิลรัฐบาล