ชัชชาติ หนุนการแสดงออก ชี้เป็นพื้นฐานประชาธิปไตย เผยกิจกรรมลานคนเมืองวันนี้ จ่อลงไปร่วมด้วย เดินเล่น-กินขนม-เก็บไอเดียพัฒนาเมือง
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2565 ที่ศาลาว่าการกทม. ดินแดง 2 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงการออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง จัดให้มีสถานที่ใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะว่า ประกาศออกมาตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.แล้ว แต่ในจังหวัดอื่นๆ ประกาศกันไปหมดแล้ว จริงๆก็เชย เช่น บุรีรัมย์ประกาศไปเมื่อปี 2563 แล้ว 23 พื้นที่ จึงไม่ต้องตื่นเต้นมาก
ส่วนของกทม.ประกาศไปแล้ว 7 จุด ได้แก่ 1.ลานคนเมือง เขตพระนคร 2.ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง 3.ที่สาธารณะใต้สะพานรัชวิภา ใกล้ซอยวิภาวดีรังสิต 36 เขตจตุจักร 4.ลานจอดรถหน้าสำนักงานเขตพระโขนง 5.ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เขตมีนบุรี 6.ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ และ 7.สวนมณฑลภิรมย์ เขตตลิ่งชัน
นายชัชชาติ กล่าวว่า แต่ละจุดมีผังชัดเจนว่า ทำกิจกรรมตรงจุดไหนได้บ้าง ยกตัวอย่าง ลานคนเมือง ฝั่งทิศใต้ (ด้านวัดสุทัศน์) ใช้พื้นที่ได้ ร้อยละ 60 จากพื้นที่ทั้งหมด หรือประมาณ 3,722 ตารางเมตร รองรับผู้ชุมนุมได้ 1,000 คน ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น กำหนดพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร รองรับได้ 800 คน
เนื่องจากเป็นประกาศครั้งแรกของกทม. ผู้ชุมนุมจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กทม.มีหน้าที่อำนวยความสะดวก จัดพื้นที่ให้ ทั้งเรื่องความปลอดภัย ห้องน้ำ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน มี CCTV เก็บข้อมูล แต่มาตรการความมั่นคง ตำรวจจะดูแล ส่วนการทำผิดกฎหมายต่างๆ เรื่องความรุนแรง การใช้อาวุธ เนื้อหาในการชุมนุม ตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบ กทม.ไม่ได้มีหน้าที่ในส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม 7 จุดนี้ยังเป็นจุดทดลองอยู่ เนื่องจากกทม.ยังไม่เคยประกาศให้มีพื้นที่ชุมนุมสาธารณะ โดยจะใช้เวลาทดลอง 1 เดือน ว่าเป็นประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการประกาศพื้นที่หรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์จากการประกาศนี้หรือไม่ เพราะมีอีกหลายมิติที่เรายังไม่รู้ และต้องดูอีกทีว่าเราจะดูแลการชุมนุมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมาตรา 9 แห่งพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2558 หรือไม่
ดังนั้น ขอฝากประชาชนด้วย ซึ่งหลายคนในที่ประชุมไม่เห็นด้วยที่จะให้จัดพื้นที่ เพราะกลัวว่าจะดูแลลำบาก เกรงจะมีความเสียหาย แต่เชื่อว่า ประชาชนคือเจ้าของพื้นที่ของกทม. ดังนั้น การจัดพื้นที่ให้ประชาชนแสดงออก จึงเป็นสิ่งที่ดี ลดการลงไปใช้พื้นที่ถนน ทำให้การจัดการดูแลความปลอดภัยดีขึ้น และสรุปที่ประชุมทุกคนก็เห็นด้วย แต่คงไม่ได้ให้พื้นที่ทั้งหมด อาจให้แค่ร้อย 60 ของพื้นที่ เพราะต้องแบ่งให้กับผู้ที่จะมาใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ด้วย เช่น พื้นที่ออกกำลังกาย เต้นแอโรบิค ขณะเดียวกัน หากเกิดกรณีฉุกเฉิน จะเป็นจุดที่รองรับคนได้ เราพยายามทำทุกอย่างเต็มความสามารถ ขอความร่วมมือประชาชน ทำตามกรอบกฎหมาย
“การแสดงออกเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ควรไปละเมิดสิทธิของคนอื่น และกทม.พร้อมช่วยเหลือ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย” นายชัชชาติ กล่าว
สำหรับการขออนุญาตใช้พื้นที่ดังกล่าว ให้ขอล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ส่วนการขออนุญาตจริงๆ กฎหมายไม่ได้กำหนด แต่เพื่ออำนวยความสะดวก จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ หากมาขออนุญาตหลายกลุ่มพร้อมกัน อาจต้องเจรจากัน คงไม่สามารถให้จัดพร้อมกันได้ ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัย ทุกคนมีเจตนาที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามกรณีมีประชาชนมาชุมนุมเกินกว่าที่กำหนด จะมีมาตรการอย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า ผู้จัดต้องมีการประมาณการด้วยว่าผู้ชุมนุมจะมาเท่าไหร่ บางทีหากเกิดความหนาแน่นจริงๆ สามารถรับชมผ่านทางไลฟ์สดได้ เพราะมันมีช่องทางสื่อสารมากขึ้น อย่างวันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมที่จะจัดกิจกรรม 24 มิ.ย. ได้ประสานมายังนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะมีผู้มาชุมนุม 500-600 คน ส่วนการกำหนดเวลาเลิกชุมนุมให้เป็นไปตามการขออนุญาตการใช้เครื่องขยายเสียง ต้องคำนึงถึงคนที่อยู่รองข้างด้วย
เมื่อถามว่ากรณีมีผู้ชุมนุมบางกลุ่มอาจไม่ได้อยู่สถานที่ที่จัดไว้ให้ แต่ไปอยู่บนท้องถนนแทน นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องค่อยๆ ดูกันไป ต้องพยายามควบคุม ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่ต้องชี้แจง เรียนตรงๆ ว่า บรรยากาศกรุงเทพฯ ดีขึ้น อีกไม่นานจะเลือกตั้งใหญ่แล้ว ทุกคนอยากฟังความคิดที่แตกต่างคืออะไร ถ้าทำให้เกิดเรื่องอื่น สุดท้าย การแสดงความคิดเห็นจะไม่ได้แสดงความเห็น กลายเป็นทะเลาะเรื่องอื่นแทน ดังนั้น อย่าเปลี่ยนการแสดงความคิดเห็นสาธารณะเป็นอย่างอื่น
เมื่อถามว่าจะลงไปฟังด้วยหรือไม่ หรือส่งตัวแทนไปฟัง นายชัชชาติ กล่าวว่า มีคนของกทม.ในตำแหน่งที่เหมาะสม ส่วนตนจะลงไปเมื่อเวลาที่เหมาะสม เหมือนไม้สุดท้าย คงลงไปเดินเล่น กินขนม ฟังความเห็นของคน เมื่อลงไปฟัง ทักทายคน อาจได้ไอเดียใหม่ๆ มาพัฒนาเมืองได้
“ต้องมองว่าเป็นบรรยากาศบวก การฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง คือพื้นฐานของการเป็นประชาธิปไตย เมื่อใดก็ตาม สังคมยอมรับความเห็นที่แตกต่างได้ ความขัดแย้งจะน้อยลง” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว