ม็อบต้าน พรก.ชุมนุม ฝ่าแนวกั้น ยื้อยุดฉุดกระชากจนท. หวังมุ่งหน้า ทำเนียบรัฐบาล ตะโกนลั่น ‘ประยุทธ์’ ออกไป ‘อนุชา’ โผล่รับหนังสือ

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 พ.ค.65 ที่หน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) ถนนราชดำเนินนอก กลุ่มขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน ประมาณ 200 คน นำโดย นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ นำมวลชนปักหลักพักค้างอยู่บริเวณหน้า UN เพื่อต่อต้านร่าง พ.ร.บ. การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากําไร และกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน

เวลา 08.10 น. แกนนำประกาศให้มวลชน ตั้งขบวนเพื่อเดินขบวนไปทำเนียบฯรัฐบาล เพื่อทวงถาม 3 ข้อเรียกร้อง และขอให้ ครม. หยุดและถอนร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มทุกฉบับออกจากการพิจารณาของ ครม. โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ดูแลรักษาความปลอดภัย และการจราจร โดยนำแผงเหล็กมาปิดการจราจร บน ถ.ราชดำเนินนอก และบนสะพานมัฆวาน ไม่ให้กลุ่มใช้เส้นทางมุ่งหน้าทำเนียบ

เวลา 08.40 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปทางสะพานมัฆวาน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กและลวดหีบเพลงมาปิดกั้นการจราจรไว้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้โปรยกระดาษใบปลิว ซึ่งมีข้อความต่างๆ อาทิ “ทวงคืนสิทธิเสรีภาพการรวมกลุ่ม , ยกเลิกกฎหมายการรวมกลุ่มทุกฉบับ, การรวมกลุ่มคือรากฐานประชาธิปไตยรัฐบาลจั..ไรอย่าเ…ก” บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยบางส่วนได้ทำการฉีดพ้นข้อความ ลงบนพื้นถนน

ทั้งนี้จากการเจรจา เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้กลุ่มเดินทางผ่านบริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ เนื่องจากในพื้นที่มีสถานที่สำคัญ หลายแห่ง จากนั้นทางผู้ชุมนุมได้เปลี่ยนเส้นทางเคลื่อนขบวน ไปใช้เส้นทาง – เลียบคลองผดุงกรุงเกษม มุ่งหน้าแยกเทวกรรม เลี้ยวซ้าย แยกนางเลิ้ง โดยตลอดการเคลื่อนขบวนแกนนำได้กล่าวปราศรัยผ่านรถขยายเสียง ตลอดเส้นทาง

ต่อมาชเวลา 09.07 น. กลุ่มผู้ชุมนุม เดินเข้ามาทางแยกนางเลิ้ง สู่ถนนพิษณุโลก ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำรั้วเหล็กปิดกั้นหน้าคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร ท่ามกลางเสียงตะโกนจากขบวนฯ ว่า “ประยุทธ์…ออกไป”

เวลา 09.15 น. ขบวนฯ นำโดยกลุ่มคนใส่ชุดจิงโจ้ เปิดแผงเหล็กชั้นแรก ในขณะที่ผู้ปราศรัยยังยืนยันว่าวันนี้มาอย่างสงบ สันติ และต้องการให้รัฐบาลมาเจรจากับประชาชน รับฟังปัญหา ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อำนวยความสะดวก

ขณะที่ แผงเหล็กแนวที่สองถูกรื้อ ทีมเจรจากำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แกนนำสั่งผู้ชุมนุมเคลื่อนเข้าประชิดแนวรั้วที่สาม บริเวณหน้าวังกรมหลวงชุมพร

เวลา 09.30 น. นายเลิศศักดิ์ ประกาศนับถอยหลัง 5 นาที ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรื้อรั้ว ในขณะที่ผู้ชุมนุมได้เดินเข้าไปประชิดรั้วแนวที่สามแล้ว

09.37 น. ผู้ชุมนุมรื้อเปิดแนวรั้ว และเคลื่อนขบวนเข้าสู่แนวรั้วแนวสุดท้ายที่มีแนวลวดหนาม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้นำกำลังมาตรึงไว้ข้างหลัง พร้อมกับรถจีโน่ เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่าการกระทำของผู้ชุสนุมขัดต่อกฎหมาย

โดยแกนนำประกาศให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาที ในการรื้อแนวรั้วลวดหนามเปิดทางให้ผู้ชุมนุมได้เจรจากับผู้แทนรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าวันนี้จะไม่ยอมกลับ ประชาชนคนธรรมดามาเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของตนเอง

09.50 น. แกนนำผู้ชุมนุมประกาศยกระดับเข้าประชิดแนวรั้วลวดหนาม โดยผู้แทนรัฐบาลจะส่งคนเข้ามาเจรจากับขบวนฯ บนสะพานชมัยมรุเชฐ โดยผู้ปราศรัยกล่าวว่าต้องการให้บรรยากาศการเจรจาเป็นมิตร พี่น้องได้ล้อมวงคุยกันกับตัวแทนรัฐบาล ฉะนั้นนับถอยหลัง 15 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรื้อรั้วลวดหนามและแผงกั้นเหล็กยออก หรือนำถอยร่นไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาล

เวลา 10.20 น. นายอนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ ผู้แทนนายกรัฐมนตรี เดินทางออกมารับหนังสือและเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุม ซึ่งขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมส่งตัวแทนและตั้งคณะกรรมการร่วมกันกับรัฐบาลเพื่อศึกษาปัญหาและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้มีการนำข้อเรียกร้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในวันนี้ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่น่าพอใจจึงจะเดินทางกลับ

ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เสนอข้อเรียกร้องเดียว คือ ให้ยกเลิกกฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพและควบคุมการรวมกลุ่ม ซึ่งทางนายอนุชา ไม่ได้รับปากว่าจะมีคำตอบและรับหนังสือจากแกนนำ จากนั้นแกนนำได้แจ้งให้ ผู้ชุมนุมปักหลักรอคำตอบจากทางนายอนุชาจ่อที่บริเวณแยกพาณิชย์