การแข่งขัน รีโว่ ไทยลีก 2021/22 นัดที่ 4 ประจำวันเสาร์ที่ 25 ก.ย. เกมระหว่าง “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด เปิดบ้าน สนาม อบจ.ขอนแก่น ต้อนรับการมาเยือน ของ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี แข่งขันเวลา 18.00 น.
เกมนี้ กุนซือ คาร์ลอส เอดูอาร์โด ปาร์เรร่า จัดทัพ 11 คนแรก มี จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ เป็นผู้รักษาประตู ส่วนผู้เล่นประกอบไปด้วย นรงฤทธิ์ บุญสุข, ดักลาส โคโบ, โจชัว กรอมเมน – พลากร วอกลาง, กฤษดา เหมวิพัฒน์, ปาณเดชา เงินประเสริฐ, สุวิทย์ ไปพรมราช, อรรถวิท สุขช่วย, อิบสัน เมโล, ยาซีร์ ปินโต
ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี ทีมเยือน ของ สะสม พบประเสริฐ จัด 11 คนแรก ได้ ชนินทร์ แซ่เอียะ นายด่านมือ 1 กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ขณะที่ผู้เล่นประกอบไปด้วย นพนนท์ คชพลายุกต์, จูเนียร์ เอลด์สตอล, เรนาโต้ เคลิช, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, กฤษดา กาแมน, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, จิดี้ คานยุค, เดนนิส มูริลโล, ยู บยอง ซู
เปิดฉากมาไม่ถึงนาที ชลบุรี เอฟซี สร้างจังหวะได้ลุ้นประตูขึ้นนำก่อน จากเกมบุก และ ลูกเตะมุม แต่ทว่ายังทำได้แค่หวาดเสียวเท่านั้น จากนั้น ทัพ “ฉลามชล” ยังคงพยายามเดินเกมบุกต่อ ส่วน ขอนแก่น ยูไนเต็ด เน้นรับในแดนอย่างเหนี่ยวแน่นแล้ว หาจังหวะทำเกมโต้กลับเร็ว
นาทีที่ 11 ชลบุรี เอฟซี มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 เมื่อมีจังหวะทำฟาวล์ ของ ผู้เล่นของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ สุวิทย์ ไปพรมราช ไปทำฟาวล์ใส่ นพนนท์ คชพลายุกต์ ล้มลงในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเช็ค VAR และ ตัดสินให้เป็นจุดโทษ ก่อนที่ เดนนิส มูริลโล จะยิงเข้าไป ชลบุรี เอฟซี ขึ้นนำ 1-0
หลังเสียประตู ขอนแก่น ยูไนเต็ด โหมบุกใส่ทันทีหวังทวงประตูคืน และ มาได้ลุ้น 2 จังหวะติดต่อกัน จาก พลากร วอกลาง และ อิบสัน เมโล แต่ทว่าแนวรับ ชลบุรี เอฟซี รวมถึง ชนินทร์ แซ่เอียะ ยังช่วยกันป้องกันเอาไว้ได้
เกมเริ่มสนุกมากขึ้น เมื่อทั้ง 2 ทีมต่างเปิดเกมแลกหมัดกันอย่างสนุก แต่อย่างไรก็ตาม ชลบุรี เอฟซี ก็มาได้ประตูหนีห่างออกเป็น 2-0 ในนาทีที่ 24 จากลูกฟรีคิก จิดี้ คานยุค เปิดเข้าไปกลางประตู แนวรับของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด เคลียร์ไม่ขาดบอลมาเข้าทาง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ยิงด้วยขวาเข้าไป
แม้สกอร์จะตามหลัง 2 ประตู แต่ทว่า เจ้าถิ่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ไม่ยอมแพ้ง่าย พยายามตั้งเกมเปิดฉากบุกสู้ แต่ทว่ายังไม่สามารถเจาะแนวรับ ชลบุรี เอฟซี ที่ยังช่วยกันได้เหนี่ยวแน่นเข้าไปลุ้นประตูได้
สถานการณ์ของ เจ้าถิ่น ยังไม่ดีขึ้นเมื่อมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน จากจังหวะที่ ดักลาส โคโบ ไปทำฟาวล์ เดนนิส มูริลโล ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเป่าให้เป็นลูกจุดโทษทันที ซึ่งเมื่อเช็ค VAR อีกครั้ง จะมาแจกไปแดงให้ ดักลาส โคโบ ที่เจตนาไปใช้แขนเล่นบอลในจังหวะดังกล่าว ซึ่ง ยู บยอง ซู รับหน้าที่สังหารแต่ไปติดเซฟ ของ จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ ผู้รักษาประตู ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกมโต้กลับ ของ ชลบุรี เอฟซี ที่เล่นได้อย่างดุดัน มาบวกสกอร์เพิ่มเป็น 3-0 เริ่มจาก จิดี้ คานยุค เล่นชิงกับ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ที่พาบอลก่อนส่งคืนให้ จิดี้ คานยุค อีกครั้ง แล้วส่งต่อให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ตบเข้ากลางย้อนให้ เดนนิส มูริลโล วิ่งมายิงเข้าไป ชลบุรี เอฟซี นำห่าง 3-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ปรับแท็คติก ด้วยการเปลี่ยนตัวผู้เล่นพร้อมกันถึง 3 คน ส่วน ชลบุรี เอฟซี ยังส่งผู้เล่นชุดเดิมลงสนาม รูปเกมเปิดฉากมาเป็น ขอนแก่น ยูไนเต้ด ที่เปิดเกมบุกสู้ แต่ทว่าเกือบโดน ชลบุรี เอฟซี ทำประตูหนีห่าง 4-0 แต่ทว่า เดนนิส มูริลโล ที่จังหวะสุดท้าย ยิงไปติด นรงฤทธิ์ บุญสุข ก่อนจะสกัดทิ้งออกไป
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 50 บอลเปลี่ยนแกนจากซ้ายไปขวา จาก จิดี้ คานยุค มาถึง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ก่อนบอลเลยมาถึง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่ยิงด้วยขวาเข้าประตูไป ชลบุรี เอฟซี ขยับสกอร์นำห่าง 4-0
เกมรุกของ ชลบุรี เอฟซี ยังเดินเครื่องใส่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ได้อย่างดุดัน ก่อนจะมาได้เพิ่มอีก 2 ประตู จากจังหวะสวนกลับ นาทีที่ 52 เดนนิส มูริลโล หลุดเข้าไปซัดแฮตทริกช่วยให้ ชลบุรี เอฟซี นำ 5-0
จากนั้น นาทีที่ 54 จิดี้ คานยุค จะไหลให้ เดนนิส มูริลโล กดประตูที่ 4 ของตัวเอง ช่วยให้ ชลบุรี เอฟซี หนีห่างไปไกลเป็น 6-0
ขอนแก่น ยูไนเต็ด แม้จะตามหลังแต่ยังตั้งหน้าตั้งตาบุกสู้ ส่วน ชลบุรี เน้นรับแน่นในแดน แล้วหาโอกาสโต้ ก่อนที่ นาทีที่ 82 ชลบุรี เอฟซี จะมาได้ประตูหนีห่างเป็น 7-0 บอลเปิดจากฝั่งขวา โดย นพนนท์ คชพลายุกต์ บอลดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ทว่า สัมพันธ์ เกษี ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงไป ตามไปกดดันแนวรับ เจ้าถิ่น ก่อนจะชิงบอลมาแล้วจ่ายต่อให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ยิงเน้นๆเข้าไป ซึ่งจากประตูดังกล่าวถือเป็นแฮตทริก ของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ในเกมนี้อีกด้วย
จากนั้นในช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่ม จบ 90 นาที ชลบุรี เอฟซี บุกชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 7-0 พร้อมขยับขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงชั่วคราวด้วยการมี 8 คะแนน จาก 4 นัด
โดยโปรแกรมนัดต่อไป ของ ชลบุรี เอฟซี จะกลับไปเล่นในบ้าน สนาม ชลบุรี สเตเดี้ยม พบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในวันที่ ศุกร์ที่ 1 ต.ค.เวลา 18.00 น.ต่อไป