Apple เปิดตัว Apple Vision Pro แว่นตา AR ที่เป็นอุปกรณ์ที่ล้ำและทะเยอทะยานที่สุดของ Apple แต่ยังไม่ประกาศราคาขายในตอนนี้ คาดวางจำหน่ายใช้งานภายในต้นปีหน้า แต่น่าใช้มาก เรียกว่าเป็น เทคโนโลยีล้ำมาก น่าใช้ เป็นเทคโนโลยีมาใหม่ที่บอกเลยว่าในอนาคตต้องฮิตสุดๆ แน่นอน
- ไปต่อหรือพอแค่นี้? เช็กเลย iPhone รุ่นไหนได้ไปต่อ iOS 17
- ซีรีส์มาใหม่เพียบ! รวมหนัง/ซีรีส์น่าดูตลอดเดือนมิถุนายน66
- จับตา หวยสิงห์เหนือเสือใต้ 16 6 66 แนวทางแม่นๆ เลขเด็ด 2 – 8 อย่าพลาด
สเปก Apple Vision Pro
- ชิปประมวลผลคู่ M2 + R1 ชิปทั้ง 2 ตัว จะทำหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลและการทำงาน โดยฝั่ง R1 จะเป็นชิปที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อผสานการทำงานของเซนเซอร์และกล้องทุกตัวบน Vision Pro โดยเฉพาะ
- กล้อง 12 ตัว, ไมโครโฟน 6 ตัว และเซนเซอร์อีก 5 ตัว ทั้งหมดใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยกล้องที่ใช้จะเป็นกล้องแบบใหม่ของแอปเปิลที่เรียกว่ากล้อง 3 มิติ (3D Camera) โดยจะติดตั้งตามมุมต่าง ๆ ของตัวแว่น พร้อมไมโครโฟนรับเสียงและเซนเซอร์สำคัญอย่าง LiDAR ที่วัดระยะลึก และเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวของดวงตาและมือ เป็นต้น
- หน้าจอ micro-OLED ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล (MP) สำหรับดวงตา “แต่ละข้าง” เพื่อการใช้งานที่สมจริงและละเอียด พร้อมเลนส์จากไซซ์ (ZEISS) สำหรับการปรับแก้มุมมองภาพเมื่อมองภาพจริงผ่าน Vision Pro
- ลำโพงแบบแนบข้างสายคาดเหนือหู รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง (Spatial Audio) แบบใหม่
- แบตเตอรี่ที่ไม่ได้ระบุความจุ แต่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 2 ชั่วโมง ด้วยการทำงานเต็มรูปแบบของเซนเซอร์และกล้องต่าง ๆ
ฟีเชอร์ Apple Vision Pro
- EyeSight การผสานโลกความจริงกับหน้าจอเสมือน รองรับการมองสิ่งรอบตัวระหว่างที่ Vision Pro กำลังใช้งานแบบโปร่งใส (Transparent) เป็นภาพ 3 มิติ ที่เป็นธรรมชาติ
- OpticID ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสแกนม่านตา บนพื้นฐานความสว่างจากหน้าจอ LED ที่อยู่ในระยะใกล้ดวงตาจนสามารถสแกนม่านตาได้
- แสดงผลภาพแบบ Realtime ด้วยค่าความหน่วงภาพเพียง 12 มิลลิวินาที (ms) จากการทำงานร่วมกันของกล้องและเซนเซอร์ด้วยชิปประมวลผล R1
- ควบคุมการทำงานด้วยมือและดวงตา ไม่มีการใช้อุปกรณ์ควบคุมเสริมใด ๆ แต่อ่านท่าทาง (Gesture) ของมือและการขยับดวงตาด้วยเซนเซอร์กับกล้องเท่านั้น เช่น การขยับตาขึ้นลงเพื่อดูแอป, แตะมือแทนการกดคลิกด้วยเมาส์ หรือแม้แต่การเลื่อนหน้าจอด้วยการหมุนข้อมือ
- Personalized Spatial Audio ระบบเสียงรอบทิศทางเฉพาะบุคคล ที่มีการปรับการปล่อยเสียงให้ตรงตามสรีระผู้ใส่โดยเฉพาะ
- ทำงานบน visionOS ระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับ Vision Pro โดยเฉพาะ โดยเน้นหน้าตาการใช้งานแบบ 3 มิติ ที่รองรับการสั่งงานด้วยมือและสายตา โดยจะมีแอปพลิเคชันที่ทำงานบน iOS, iPadOS, macOS บางส่วนพร้อมใช้บน VisionOS เมื่อวางจำหน่าย
- หน้าจอเสมือนกว้าง 100 ฟุต หรือ 30.5 เมตร รองรับการทำงานด้วยแอปหลายแอปพร้อมกัน หรือใช้ดูภาพยนตร์ และเล่นเกมที่จะเปิดตัวอย่างน้อย 100 เกม ในอนาคต
- รองรับอุปกรณ์เสริม Apple ทั้ง คีย์บอร์ด (Magic Keyboard) แทร็กแพด (Magic Trackpad) หรือหูฟังอย่างแอร์พ็อดส์ (Airpods) เพื่อยกระดับการทำงานให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY