‘มาร์ค’ ขอเสียงคนกรุงเลือก ปชป. เผยถูกชม “ความหล่อคงที่ ความดีเหมือนเดิม” เคลมนโยบายเบี้ยผู้สูงอายุ ‘ชวน’ เป็นคนคิด ยัน ปชป.เป็นหลักพาบ้านเมืองเดินไปได้

เมื่อเวลา 17.30 วันที่ 29 เม.ย. 2566 ที่สนามฟุตบอล ศูนย์เยาวชนหลักสี่ (ท่าทราย) เขตหลักสี่ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) จัดปราศรัยกรุงเทพฯ โซนเหนือ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ดูแล กทม. พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.กทม. โซนเหนือ ร่วมขึ้นเวทีปราศรัย ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ดีใจที่มีโอกาสมาพบพี่น้องที่นี่หลายครั้ง ตนไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่เป็นสมาชิกของพรรค ปชป. และเดินทางไปเพื่อสนับสนุนผู้สมัครของพรรคและพรรค ตนไปไหนพอบอกว่าไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขาก็สงสัยว่ามาทำไม เพราะไม่ได้มาหาเสียงให้ตัวเองแน่นอน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนบอกสิ่งแรกคืออย่างน้อยที่สุดเพื่อมากราบขอบพระคุณพี่น้องทุกคน เพราะนักการเมืองอย่างตน เหมือนกับนักการเมืองหลายคนในพรรค ปชป. เรามีโอกาสไปเป็นผู้แทนฯ มีโอกาสไปมีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร หรือตนมีโอกาสได้เป็นนายกฯ “เราไม่ใช่คนมีเงิน เราไม่ใช่คนมีอิทธิพล เราไม่ใช่คนที่จะสามารถไปสถาปนาเอาสิ่งเหล่านี้มาให้ตัวเองได้ เรามีโอกาสไปทำสิ่งเหล่านี้ ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนที่สนับสนุนเรา ผมมีหรือไม่มีตำแหน่ง หัวใจ อุดมการณ์เหมือนเดิม ไปไหนบางคนบอกว่าใช้ได้ ความหล่อคงที่ ความดีเหมือนเดิม”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนมาวันนี้มีเรื่องหลัก 2 เรื่อง เพราะในวันที่ 14 พ.ค.การเลือกตั้งครั้งนี้เขามีบัตรเลือกตั้งสองใบ ใบแรกเลือก ส.ส.เขต สีม่วง โดยเฉพาะในพื้นที่นี้ผู้สมัครคือ พล.ต.ต.วิชัย สังขประไพ ผู้สมัคร ส.ส.เขต หลักสี่ เบอร์ 14 ส่วนเรื่องที่สองคือบัตรอีกใบสีเขียว ขอให้เลือกเบอร์ 26 พรรคประชาธิปัตย์

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์คำนึงถึงความยั่งยืน ผลประโยชน์ระยะยาวไม่ได้มองแค่การเลือกตั้งครั้งใดครั้งหนึ่ง หรือผลประโยชน์เฉพาะหน้า นโยบายหลายอย่างบางครั้งถูกต่อว่าทำไมไม่ตื่นเต้นเร้าใจหวือหวาเหมือนพรรคนั้นพรรคนี้ แต่หลายนโยบายที่หวือหวาเร้าใจสร้างความเสียหายให้กับประเทศมามากแล้ว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นโยบายปชป.บางครั้งอาจไม่ถูกใจเต็มที่ แต่สามารถทำตนดำรงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ วันนี้แข่งกันออกนโยบายผู้สูงอายุตัวเลขเร้าใจมาก เพราะเดี๋ยวนี้ประชากรเรามีผู้สูงอายุเยอะ แต่เบี้ยยังชีพเกิดขึ้นสมัยที่ผู้สูงอายุคิดเป็นสัดส่วนประชากรน้อยมาก เมื่อ 30 ปีที่แล้ว คนคิดคือนายชวน หลีกภัย เงินรัฐบาลไม่มาก จ่ายให้กับบางคน 200 บาทเท่านั้น

“10 ปีที่แล้ว ปชป.สมัยผม ได้ขอเปลี่ยนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน เป็นเบี้ยยังชีพถ้วนหน้า 500 บาท ถ้า 10 ปีที่แล้ว ผมให้ 3,000 บาท วันนี้โครงการนี้อาจจะล้มไปแล้ว เพราะมีปัญหาเรื่องงบประมาณ”

“ผมไม่รู้ว่าหลังเลือกตั้งใครจะมีกี่เสียงใครจะจับมือกับใครเป็นรัฐบาล หรือใครจะเป็นฝ่ายค้าน แต่ผมเชื่อว่ายังมีความสับสนอยู่พอสมควร เพราะกติกาบ้านเมืองยังสับสน มี ส.ว. 250 คนอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพูดได้คือ พรรคอย่าง ปชป.จะเป็นฝ่ายค้าน จะเป็นรัฐบาล สถานการณ์จะเป็นอย่างไร ก็จะยืนยันความเป็นหลักให้กับบ้านเมือง ให้บ้านเมืองเดินด้วยเหตุด้วยผลฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคต่างๆ ให้กับพี่น้องประชาชนได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว