มะกันประหารมือฆ่าโหด หมกศพเหยื่อนาน13ปี ตร.หาเพิ่งพบผ่านลายแทง
มะกันประหารมือฆ่าโหด – วันที่ 14 ธ.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนรัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกา พบศพเหยื่อคดีหายสาบสูญตั้งแต่เดือนก.ค. 2550 โดยอาศัยเบาะแสจากลายแทงที่ผู้ก่อเหตุซึ่งถูกประหารไปแล้วยอมมอบให้เจ้าหน้าที่
นายเดวิด แดเนียล ค็อกซ์ เป็นผู้ต้องสงสัยหลักของการหายตัวไปของนางเฟลีเซีย ค็อกซ์ มีศักดิ์เป็นน้องสะใภ้ของนายค็อกซ์ตั้งแต่ปี 2550 ต่อมานายค็อกซ์และนางคิม ผู้เป็นภรรยามีเรื่องแตกหักจนต้องแยกกันอยู่ และนายค็อกซ์ถูกตัดสินจำคุก 9 เดือน ในปี 2552
โดยนายค็อกซ์ ระบุกับศาลไว้ว่า หากพ้นโทษแล้วจะกลับไปฆ่าภรรยา เพราะมองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนติดคุก (แต่รายงานไม่ได้ระบุว่าติดด้วยข้อหาใด) ซึ่งหลังพ้นโทษไม่กี่สัปดาห์นายค็อกซ์ก็ซื้อปืนพกและบุกไปฆ่าภรรยา เมื่อ 14 พ.ค. 2553
รายงานระบุว่า นายค็อกซ์ ยิงภรรยาและปล่อยให้เลือดไหลจนเสียชีวิต โดยตลอดเวลานั้นเหยื่อพยายามร้องขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้ นายค็อกซ์ ยังข่มขืน ลูกสาวอายุ 12 ปี ต่อหน้าเหยื่อที่กำลังขาดใจตายถึง 3 ครั้ง กระทั่งหน่วยตำรวจคอมมานโดนำกำลังบุกเข้าจับกุม
คดีดังกล่าวส่งผลให้นายค็อกซ์ถูกศาลพิพากษาประหารชีวิตตั้งแต่ปี 2555 ในคดีดังกล่าว และเพิ่งถูกประหารไปเมื่อ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ทว่า ตำรวจนั้นไม่เคยหาตัวบุคคลที่หายสาบสูญไปในคดีแรกพบ กระทั่งได้รับมอบลายแทงดังกล่าวจากทนายความของนายค็อกซ์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะลงมือสำเร็จโทษตามคำพิพากษาของศาล
เจ้าหน้าที่สืบสวนต้องใช้ภาพลายแทงที่นายค็อกซ์วาดด้วยมือมาเปรียบเทียบกับภาพถ่ายดาวเทียมทั้งจากปีนี้ และจากเมื่อปี 2550 กระทั่งพบอาคารต้องสงสัยและนำกำลังไปค้นจึงศพ โดยผลการพิสูจน์ด้วยสารพันธุกรรมยืนยันว่าเป็นน้องสะใภ้ของนายค็อกซ์ที่หายตัวไปจริง
ทั้งนี้ นายค็อกซ์ นับเป็นนักโทษรานยแรกของรัฐมิสซิสซิปปีที่ถูกประหารชีวิตนับตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากปัญหาหลักมาจากการขาดแคลนสารเคมีเฉพาะที่ใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกาย อย่างไรก็ตาม ทางการรัฐมิสซิสซิปปี ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่าหาสารดังกล่าวมาจากที่ใดเพื่อประหารนายค็อกซ์