มท.1 มอบนโยบายผู้ว่าฯ 17 จว.เหนือ เน้นย้ำเฝ้าระวังโควิด ตีปี๊บ ปชช.ฉีดวัคซีน สกัดเข้มพวกลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ห้องประชุมดอยสุเทพ รร.แคนทารี่ฮิลส์ เชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานมอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง อธิบดี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุม ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.อ.อนุพงษ์ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีผลงานดีเด่นด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้แก่ นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดีเด่นฯ ให้แก่ เทศบาลตำบลสันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการพูดคุยหารือ แนะนำแนวทางการทำงานร่วมกันของผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ และมอบนโยบายการขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ 1.ด้านการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆ และการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะ ผอ.รมน.จังหวัด เพิ่มความเข้มงวดสกัดกั้นและการปฏิบัติการด้านการข่าว โดยแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบ ได้แก่ การปฏิบัติในพื้นที่ชายแดน โดยร่วมกับกองกำลังป้องกันชายแดน ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ เพิ่มการลาดตระเวนต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นป้องกันมิให้มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย การปฏิบัติในพื้นที่ตอนใน ให้ใช้กลไกตำรวจภูธรร่วมกับฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดและจุดคัดกรองโรคบุคคล และการขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และการปฏิบัติพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครในพื้นที่ ร่วมกันตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน/ชุมชน หากพบผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้ประสานหน่วยงานความมั่นคงดำเนินการตามกฎหมายทันที
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ให้รณรงค์และบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงตามจำนวนเป้าหมายที่กำหนด พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข DMHTTA อย่างเคร่งครัด ส่วนการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาการค้ามนุษย์ ให้ดำเนินมาตรการสกัดกั้นเชิงพื้นที่ ป้องกัน และลดปัจจัยเสี่ยง รวมถึงการปราบปราม บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อขบวนการค้ามนุษย์ นำผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดไม่มีละเว้น ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ดำเนินมาตรการลดผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด สร้างการรับรู้เกี่ยวกับพิษภัยจากยาเสพติด ผ่านทุกช่องทางอย่างหลากหลาย และมาตรการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เพื่อลดผู้ผลิต/ผู้ค้า ด้วยการเฝ้าระวัง สกัดกั้น ป้องกันการลักลอบนำเข้า/ลำเลียงยาเสพติด พร้อมทั้งบูรณาการปราบปรามผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า 2.ด้านปัญหาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ได้เน้นย้ำให้จังหวัดบูรณาการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง ทั้งการควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะ การก่อสร้าง ภาคอุตสาหกรรม ครัวเรือน และสร้างการรับรู้ ความตระหนัก และรณรงค์สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน การควบคุมและบริหารการเผาในพื้นที่การเกษตร การแปรรูปเป็นพลังงานเชื้อเพลิง การรณรงค์การใช้สารย่อยสลายหรือไถกลบตอซังข้าว/ข้าวโพด/ซากวัชพืช และกำหนดแนวทางมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยต้องลดปริมาณจุดความร้อนให้น้อยที่สุด ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากปี 2565 ให้จังหวัดเร่งจัดส่งโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณไปยังกองจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่ (CBO) ภายในวันที่ 31 ธ.ค.
“ขอให้ผู้ว่าฯ ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกฎหมายตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งเมื่อทุกท่านปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเองอย่างครบถ้วนไม่ขาดตกบกพร่อง ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น และขอขอบคุณผู้ว่าฯ รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกท่านได้มุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติราชการให้บังเกิดผลประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ด้านนายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในด้านการจัดการศึกษาในพื้นที่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ในการให้สถานศึกษาเปิดเรียนตามปกติ เพื่อไม่ทำให้นักเรียนเสียโอกาส ทั้งด้านการเรียนการสอน สัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมถึงด้านสังคม โดยสถานศึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของ ศบค. ทั้งการสุ่มตรวจภายหลังเปิดเรียน การให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับวัคซีน 100% และการเฝ้าระวังการข่าวในชุมชนที่เด็กหรือผู้ปกครองอาศัย หากพบมีการติดเชื้อ ให้ดำเนินตามมาตรการสาธารณสุข นอกจากนี้ต้องกำชับการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรคภายในเรือนจำ หรือสถานที่ที่ต้องควบคุมคนอยู่รวมกันจำนวนมากอย่างเข้มข้น และกำชับนายอำเภอควบคุมดูแลการจัดงานประเพณี งานรื่นเริง งานบุญ งานกุศล ตามมาตรการของกระทรวงวัฒนธรรม ห้ามประมาท