เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล เยอร์เกน คล็อปป์ และ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการสโมสรลิเวอร์พูล ทำท่าว่าจะต้องเจอภารกิจท้าทาย คือการไล่ล่าหาตัวแทนกองกลางคนสำคัญอย่าง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ซึ่งกำลังจะหมดสัญญา โดย “หงส์แดง” เองไม่มีท่าทีจะปรับปรุงข้อเสนอที่เคยยื่นให้ตัวนักเตะไปแล้ว

อ่านเกมง่ายๆว่า ทางสโมสรเองมีข้อจำกัดกับดาวเตะวัย 30 ย่าง 31 แม้ “จินี่” จะมีบทบาทสำคัญกับทีมมาตลอดตั้งแต่ย้ายเข้ามาด้วยราคา 25 ล้านปอนด์จากนิวคาสเซิ่ล ช่วงซัมเมอร์ปี 2016 หรือเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ตอนนี้อายุค่อนข้างเยอะแล้ว เลยอาจไม่ได้ข้อเสนอที่สนองตอบต่อความต้องการของเอเย่นต์และตัวแข้งดัตช์แบบสุดๆ

ถึงจะเป็นนักเตะที่ไม่ได้มีลีลาน่าตื่นตาตื่นใจเหมือน โรแบร์โต ฟีร์มีโน หรือ ซาดิโอ มาเน แต่ไวจ์นัลดุมก็เป็นขุนพลคู่ใจและเป็นตัวหลักของกุนซือชาวเยอรมันมาโดยตลอด มีประโยชน์มหาศาล เป็นนักบอลประเภทปิดทองหลังพระ วิ่งไม่มีหยุด คอยไปเสริมตามตะเข็บพื้นที่ที่ทีมต้องการ แน่นอนเขามีส่วนสำคัญในการพา “หงส์แดง” เป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2019 และ พรีเมียร์ลีก 2020

หาก “ดัตช์แมน” ผู้นี้จากไปในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลหน้า ยังเดาใจ คล็อปป์ กับ เอ็ดเวิร์ดส์ ไม่ถูกเหมือนกันว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรเพื่อไม่ให้แดนกลางเกิดช่องโหว่ โดยเฉพาะในยามที่ เจมส์ มิลเนอร์ ร่วงโรยลงไปทุกนาทีด้วยวัย 35 แถม นาบี เกอิตา กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ฟอร์มยังไม่สม่ำเสมอพอที่จะฝากความหวังอะไรไว้ได้ น่าสนใจว่าคล็อปป์จะแก้ปัญหานี้อย่างไร?

ทางเลือกแรกคือ “ปั้นนักเตะในทีมแทน”

จริงๆแล้วสโมสรได้ซื้อ ติอาโก้ อัลคันทารา มาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว เหมือนเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยกุนซือจากเมืองเบียร์สามารถแปะจอมคลาสสิคผู้นี้ลงไปเล่นร่วมกับ ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นสามประสานได้เลย ถ้าไม่กังวลว่ายังมีเสียงจากบรรดานักวิเคราะห์หลายรายที่บ่นผ่านหูว่าติอาโกยังช้าเกินไปสำหรับสไตล์การเล่นในอังกฤษ แถมไม่เด่นเหมือนสมัยเล่นให้กับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค

แน่นอนเขาเป็นนักเตะคนละสไตล์กับไวจ์นัลดุม ไม่ได้แข็งแกร่ง บึกบึน ไล่บอลได้ดีขนาดนั้น แต่ติอาโกมีเซนส์ในเกมรุกและการผ่านบอลที่เฉียบขาด เมื่ออยู่กับทีมครบหนึ่งปีแล้ว เราอาจจะเห็นการปรับตัวที่ดีขึ้นของยอดดาวเตะผู้นี้ก็เป็นได้

ยังมีดาวรุ่งอย่าง เคอร์ติส โจนส์ ซึ่งคล็อปป์ให้โอกาสในทีมชุดใหญ่เต็มๆในฤดูกาลนี้ ให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเต็มที่เกินกว่า 20 นัด ซึ่งมองแล้วถ้าพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆ อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอนาคตก็เป็นได้

ทางเลือกที่สองคือ “ซื้อเข้ามาใหม่”

ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้มีชื่อ อีฟส์ บิสซูมา กองกลางตัวตัดเกมวัย 24 จากไบรท์ตัน ซึ่งว่ากันว่ามีสไตล์ที่ใกล้เคียงกับ “จินี่” มากที่สุด ค่าเหนื่อยและค่าตัวไม่น่าจะแพงมากด้วย หรืออีกชื่อที่น่าสนใจคือ รูเบน เนเวส จากทีม “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งฟอร์มเด็ดดวงอยู่เหมือนกัน

นอกจากนี้ทีมงานเอ็ดเวิร์ดส์ยังมีอีกทาง คือไปดึงเด็กเก่าที่เคยอยู่กับลิเวอร์พูลมาก่อน อย่าง เอ็มเร ชาน หรือ ฟิลิปเป คูตินโญ กลับคืนรังเดิม อันนี้น่าสนใจแต่โอกาสเป็นไปได้คงน้อย เพราะเรื่องของค่าจ้างและสไตล์คล็อปป์ไม่ค่อยชอบเล่นของเก่าสักเท่าไร

ทางเลือกที่สามคือ “เปลี่ยนระบบ” มันซะเลย

คำตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือหาตัวแทนยากนักก็ลบตำแหน่งนี้มันทิ้งเสีย ง่ายดี หาก เยอร์เกน คล็อปป์ มีแผน 4-2-3-1 อยู่ในใจและอยากจะกลับมาใช้ นี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด

แผนนี้จะทำให้ทีมต้องการมิดฟิลด์ตัวรับแค่ 2 คน ใช้ เฮนโด้ กับ ฟาบินโญ่ ก็เพียงพอ แถมมีติอาโกสแตนด์บายอีกคนด้วย เปิดโอกาสให้มีเพลย์เมคเกอร์อยู่ในทีม ซึ่งอาจจะถอย “บ็อบบี้” ลงมาเล่นตำแหน่งถนัดได้เลยแบบไม่ยุ่งยาก

ทั้งหมดน่าจะเป็นทางเลือกที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับว่าคล็อปป์และทีมงานจะเลือกทางใด ให้การสิ้นสุดสัญญากับดาวเตะดัตช์ครั้งนี้ กระทบกระเทือน “หงส์แดง” ให้น้อยที่สุด