จากกรณีการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญ ประจำปี 2566 ของ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 เม.ย. คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นเอกสารไปยัง กกต. ตรวจสอบกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มาตรา98(3) ระบุไว้ว่า “ห้ามบุคคลที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการ สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.”
นายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขต 17 คลองสามวา กทม. ในการให้สัมภาษณ์ กรณีการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี กับรายการคุยนอกจอ ว่าในระหว่าง การประชุมออนไลน์ นายภานุวัตน์ ได้อยู่กับตนด้วยและได้บันทึกเนื้อหาการประชุมด้วย
ทางด้าน นายภานุวัฒน์ ผู้ถือหุ้นไอทีวี ต่อจาก “นายนิกม์” ให้สัมภาษณ์เปิดใจกว่า ตนเองสนใจเรื่องหุ้นอยากมาสัมผัสจึงปรึกษาข้อมูลกับนายนิกม์ ที่รู้จักกันเพราะเป็นรุ่นพี่ตั้งแต่เรียนจบหลังกลับจากต่างประเทศ จึงได้มาคุยกันเลยสอบถามช่องทางการลงทุน
“โดย นายนิกม์ จึงแนะนำให้เล่นหุ้น”
- อ้าง! เทศกิจ ตั้งป้ายกั้นเขตทางเท้า ห้าม รถวีลแชร์ผ่าน
- ทนายอั๋น ยื่น กกต. สอบสวน ‘นายเรืองไกร’ เข้าข่ายแจ้งความเท็จหรือไม่?
- ศรีสุวรรณ ซัดหมดจาก พรรคก้าวไกล ไป พรรคเป็นธรรม แอบอ้างตระกูลสืบแสง
ตอนนั้นมีความสนใจ จึงรับซื้อหุ้นต่อจากนายนิกม์ และหลังจากที่ซื้อหุ้นมา ก็ยังไม่ได้เข้าไปร่วมประชุม ซึ่งเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าไปประชุมจึง ตั้งคำถามว่า หุ้นนี้ยังมีการดำเนินกิจการธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ แม้จะออกจากตลาดหลักทรัพย์แล้ว แต่ก็มีการตอบคำถามกลับมาเหมือนที่อยู่ในคลิปภาพว่า หุ้นก็ยังดำเนินอยู่เหมือนเป็นความแน่ชัดว่า หุ้นนี้ยังมีโอกาสเกิดรายได้
นอกจากนั้น ตนได้ยอมรับว่าในวันนั้น ตนเองและนายนิกม์ นั่งอยู่ด้วยกันก็ถามไปหลายเรื่องส่วนคำถามเกี่ยวกับการเมืองไม่ได้ถามเอง นายนิกม์เป็นคนถาม เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเขาเอง เพราะเคยถือหุ้นสื่อมาก่อนจะส่งผลอะไรต่อนักการเมืองไหมและมีโอกาสหรือไม่ ขณะที่ตนเองก็มีการพิมพ์คำถามไปในระบบออนไลน์เหมือนกัน เป็นไปตามข้อมูลที่นายนิกม์โพสต์ ซึ่งเป็นข้อมูลจริง
จากเรื่องราวดัวกล่าว ทำให้สังคมเกิดความสงสัย หุ้นไอทีวี ไม่ใช่ หุ้นที่ทำกำไรหรือมีรายได้ ทำไมถึงรับซื้อมา ?
นายภาณุวัฒน์ ก็ได้ให้คำตอบว่า บริษัทยังดำเนินกิจการ มีการปิดงบ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็น “นอมินี” ให้ใคร ซื้อหุ้นนี้ จากใจจริง ไม่ได้เตรียมกันแน่นอน
จากประเด็นการนำเสนอดังกล่าว ตนรู้สึกว่ากังวลด้านความปลอดภัย เนื่องจากข่าวต่างไม่มีมีการการเซ็นเซอร์ชื่อของตนเลย และตนนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายใคร หรือ คุณพิธา เพราะตนคิดว่า เมื่อตนซื้อหุ้นตัวนี้มาแล้ว มีสิทธิ์ที่จะศึกษา และวอนกับสังอย่าจับแพะชนแกะเลย แล้วทางนายภาณุวัฒน์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ในอนาคตอาจจะคืนหุ้นตัวนี้ให้กับนายมิกม์
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY