ทีมเป๊ปดูเหนือกว่าหากไม่ “อินดี้”

ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยุคนี้ไร้เทียมทานขนาดไหน เพราะมีทั้งเกมรุกและรับที่ดุดันแน่นอน หากพวกเขาได้เล่นตามเกมที่ถนัดคงยากที่ใครจะหยุดยั้งได้ในชั่วโมงนี้

แต่อย่างไรก็ตาม แฟนเรือใบก็คงจะทราบดีอีกเช่นกัน ว่าฟอร์มที่เห็นว่าดีๆอยู่นั้น วันดีคืนดีนายใหญ่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็ชอบนึกแผนใหม่ออกมาลองใช้ในเกมสำคัญๆเสียอย่างนั้น และบ่อยครั้งที่มันออกมา “ไม่เวิร์ก” ตามที่คาด

ดังเช่นในเกมลีกที่ทั้งคู่พบกันก่อนหน้านี้ที่จัดแผนอินดี้เล่นหลัง 3 ใช้วิงแบ็ก พร้อมส่งตัวรุกลงมาพร้อมกันถึง 4 คน และแน่นอนยังมีอีกหลายนัดในอดีตที่ลองแล้ว “เสียหาย” จนถึงขั้นตกรอบก็เคยมีให้เห็นมาแล้ว

ก็คงต้องลุ้นกันว่าเกมนัดชิงชนะเลิศนี้ กุนซือเลือดกระทิงดุจะหาอะไรใหม่ๆมาเซอร์ไพรส์แฟนๆให้งุนงงกันก่อนเกมอีกหรือไม่ในคืนวันเสาร์นี้

สิงห์บลูส์กับฟอร์มช่วงหลังที่ไม่น่าไว้วางใจ

แม้ว่าการมาของ โธมัส ทูเคิล จะสามารถพลิกฟื้นให้สิงห์บลูส์กลับกลายมาเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างทันตาในช่วงครึ่งปีหลัง จนกระทั่งคว้าอันดับ 4 มาครองได้พร้อมกับเข้าชิงฟุตบอลถ้วยถึง 2 รายการด้วยกัน

แต่ดูเหมือนว่าผลงานของพวกเขาจะไม่สามารถติดลมบนไปได้จนถึงปลายทาง เพราะช่วงหลังที่เป็นช่วงชี้เป็นชี้ตายของฤดูกาล ผลงานของพวกเขากลับดร็อปลงอย่างน่าใจหาย แพ้ 3 จาก 4 เกมหลังสุด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเกมรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ที่พ่ายต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมล่าสุดยังแพ้ต่อ แอสตัน วิลลา 1-2 ในเกมปิดฤดูกาลที่ต้องการ 3 คะแนนแบบสุดๆอีกต่างหาก

ซึ่งฟอร์มที่ตกลงไปดังกล่าวมันย่อมส่งผลถึงความมั่นใจต่อทั้งแฟนบอลและนักเตะไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน จากที่จะได้ลงเล่นด้วยความฮึกเหิมอย่างเต็มเปี่ยม กลับกลายเป็นต้องรับมือกับแรงกดดันมหาศาลทั้งจากในเกมพร้อมกับผลงานที่ย่ำแย่ในช่วงที่ผ่านมาพร้อมๆกันนั่นเอง

สถิติที่น่าสนใจแบบ “หมัดต่อหมัด” ในยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้

เกมรุก
จำนวนประตูในฤดูกาลนี้ : แมนฯ ซิตี้ – 25 / เชลซี – 22
ได้จากจุดโทษ : แมนฯ ซิตี้ – 2 / เชลซี – 5
ยิงได้จากในกรอบ : แมนฯ ซิตี้ – 19 / เชลซี – 22
ยิงได้จากนอกกรอบ : แมนฯ ซิตี้ – 6 / เชลซี – 0
ยิงได้จากลูกโหม่ง : แมนฯ ซิตี้ – 1 / เชลซี – 3
จำนวนครั้งที่ยิงทั้งหมด : แมนฯ ซิตี้ – 123 / เชลซี – 104
ยิงตรงกรอบ : แมนฯ ซิตี้ – 73 / เชลซี – 56
ยิงชนเสา-คาน : แมนฯ ซิตี้ – 6 / เชลซี – 4
จำนวนครั้งที่จ่ายบอล : แมนฯ ซิตี้ – 8,290 / เชลซี – 6,561
จำนวนครั้งที่จ่ายบอลสำเร็จ : แมนฯ ซิตี้ – 7,453 / เชลซี – 5,584
อัตราการจ่ายบอลสำเร็จ : แมนฯ ซิตี้ – 89.9% / เชลซี – 85.1%

เกมรับ
จำนวนประตูที่เสีย : แมนฯ ซิตี้ – 4 / เชลซี – 4
คลีนชีท : แมนฯ ซิตี้ – 8 / เชลซี – 8
เสียประตูจากในกรอบ : แมนฯ ซิตี้ – 4 / เชลซี – 4
เสียประตูจากนอกกรอบ : แมนฯ ซิตี้ – 0 / เชลซี – 0
บล็อคลูกยิง : แมนฯ ซิตี้ – 25 / เชลซี – 38
เข้าสะกัด : แมนฯ ซิตี้ – 111 / เชลซี – 137
ใบเหลือง : แมนฯ ซิตี้ – 16 / เชลซี – 19
ใบแดง : แมนฯ ซิตี้ – 0 / เชลซี – 0

คาดการณ์รูปเกม

สำหรับรูปเกม คาดว่าทั้งสองทีมจะเปิดเกมบุกในสไตล์ของตัวเองเข้าใส่กัน แต่อาจจะเล่นกันค่อนข้างรัดกุมในช่วงแรก มีช่วงเวลาที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวสามารถตัดสินผลการแข่งขันได้ แถมยังที่ยากจะคาดเดาว่าแต่ละฝ่ายจะมีทีเด็ดอะไรที่เก็บซ่อนเอาไว้ เพราะอย่างที่ทราบกันดี เรือใบสีฟ้ามีเกมบุกที่ดีที่สุดทีมหนึ่งในยุโรป ณ เวลานี้ แต่สิงห์บลูส์เองก็มีแนวรับที่แข็งแกร่งอันดับต้นๆของทวีปเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับการแก้หมากของผู้จัดการทีมทั้งสองฝ่ายว่าจะทำได้ตรงจุดขนาดไหน แถมมีโอกาสสูงที่เกมจะลากยาวไปถึงดวลจุดโทษชี้ขาดอีกด้วย

คาดการณ์สกอร์ : แมนฯ ซิตี้ 1-1 เชลซี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะจุดโทษไปได้)

ติดตามผลบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ทุกคู่ที่นี่ https://www.sanook.com/sport/program/