เรื่องราวความรักของชายหนุ่มวัย 22 ปี กับหญิงสาววัย 39 ปี ในมณฑลไห่หนาน ประเทศจีน ได้รับความสนใจจากสังคมออนไลน์ ยิ่งเมื่อมีการเปิดเผยว่า ในตอนแรกพ่อแม่ของฝ่ายชายคัดค้านอย่างรุนแรง แต่กลับเปลี่ยนใจมายอมรับหลังจากรู้อาชีพและรายได้ของลูกสะใภ้
ตามรายงานพบว่า ทั้งสองพบกันโดยบังเอิญในเช้าวันหนึ่ง ขณะที่ “คุณเจิน” (นามสมมุติ) ชายหนุ่มกำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่ เขาเห็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ถูกใจจึงเข้าไปทำความรู้จัก ซึ่งนับเป็นโชคดีที่ “คุณติง”(นามสมมุติ) ก็ตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร เธอยังพูดติดตลกว่าเป็นเรื่องยากที่จะเห็นคนหนุ่มสาววิ่งจ็อกกิ้งในตอนเช้า และหลังจากวันนั้นทั้งคู่ก็นัดกันไปวิ่งออกกำลังกายทุกวัน ได้พูดคุยกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น ความรู้สึกก็พัฒนามากขึ้นเช่นกัน
เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกดีๆ ก็พัฒนาเป็นความรัก ในท้ายที่สุดแม้อายุจะห่างกันมาก แต่ทั้งสองก็ตัดสินใจที่จะคบกันแบบคู่รัก และหลังจากคบหาดูใจกันมากว่าครึ่งปี ชายหนุ่มวัย 22 ปี ก็ตัดสินใจคุกเข่าขอคนรักของเขาแต่งงาน โดยเลือกสถานที่เป็นสวนสาธารณะซึ่งทั้งสองพบกันเป็นครั้งแรก และได้รับคำตอบ “ตกลง” กลับมา หลังจากนั้นเขาก็พาเธอไปพบพ่อแม่ที่บ้านเพื่อแจ้งข่าวดีเรื่องนี้
แม้ว่าคุณติงจะมีอายุ 39 ปี แต่เพราะดูแลเอาใจใส่ตัวเองมาเป็นอย่างดี รูปลักษณ์จึงไม่เพียงแต่ดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงมากๆ ดังนั้น พ่อแม่ของแฟนหนุ่มจึงมีความสุขโดยไม่ได้คิดอะไร ทั้งสองทำอาหารมากมายเพื่อต้อนรับแฟนสาวของลูกชาย กระทั่งหลังจากที่ได้ยินเกี่ยวกับอายุที่แท้จริงเธอ พวกเขาก็คัดค้านการคบหาของทั้งคู่ทันที เพราะกลัวว่าลูกชายที่แต่งงานกับภรรยาที่อายุมากกว่าจะมีความสุขได้ยาก มิหนำซ้ำยังให้กำเนิดทายาทได้ยากอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากว่าที่ลูกสะใภ้เปิดเผยว่า เธอเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง มีบริษัทขนาดใหญ่ใหญ่ในมณฑลไหหลำ การงานถือว่ามั่นคง และแน่นอนว่ามีสินทรัพย์มหาศาล พ่อแม่ของคุณเจินก็เปลี่ยนท่าที ยิ่งเมื่อคุณติงสัญญาว่าจะให้กำเนิดทายาทให้กับตระกูล ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตกลงยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ ทำให้ชีวิตคู่ของลูกชายเต็มไปด้วยความสุข
แต่แน่นอนว่าเรื่องราวความรักนี้ไม่รอดพ้นจากข่าวลือ ยิ่งหลังแต่งงานคุณเจินย้ายไปอาศัยอยู่ในบ้านของภรรยา ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาไม่ได้รักฝ่ายหญิงจริงๆ แต่เขาและครอบครัวของเขารักเพียงแค่เงินทองเท่านั้น ทำให้เจ้าตัวต้องออกมาตอบสนองต่อเรื่องนี้ว่า “ผมไม่ต้องการคิดมากมายเกี่ยวกับอนาคต มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดเดาได้ ผมแค่ต้องการโฟกัสกับชีวิตปัจจุบัน ใช้ชีวิตอย่างจริงจัง สงบ และมีความสุข แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”
คุณเจินยังกล่าวเสริมด้วยว่า “อายุไม่ใช่ปัญหาในสังคมเสรี สิ่งสำคัญคือคนสองคนรู้สึกต่อกัน เราไม่จำเป็นต้องการอธิบายอะไรมาก เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง”