สุดเศร้า พ่อแม่ติดโควิด-19 รักษายังไม่หาย รู้ข่าวลูกสาว วัย 9 ขวบ จมน้ำดับพร้อมเพื่อน 2 ศพ อยากมางานศพ เจ้าหน้าที่ต้องใช้โซ่ผูกติดกับเตียง
จากกรณีเมื่อเวลา 13.00 น. ของวานนี้ (7 ส.ค.) ตำรวจ สภ.ไชยวาน จ.อุดรธานี รับแจ้งจากมีเหตุเด็กจมน้ำ จำนวน 2 ราย ที่บริเวณหนองน้ำขนาดใหญ่อยู่ท้าย หมู่บ้านบ้านหนองแวงตาด ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี มีเด็กผู้รอดชีวิต 2 ราย และเสียชีวิต 2 ราย คือ ด.ญ.น้องแกม (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 9 ขวบ กำลังอยู่ชั้น ป.3 และ ด.ญ.เนย (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 10 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.4
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ส.ค.) เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของ น้องแกม อายุ 9 ขวบ ที่จมน้ำเสียชีวิต พบชาวบ้านเดินทางมาร่วมงานศพและร่วมแสดงความเสียใจกับ นายไพบูลย์ อายุ 66 ปี ปู่ของน้องแกม เปิดเผยว่า บ่ายวานนี้หลังจากตนเองกลับจากไร่มันมานอนเล่นที่แคร่หน้าบ้าน ชาวบ้านก็วิ่งมาบอกว่าน้องแกมจมน้ำตาย
ตนรีบวิ่งไปที่หนองน้ำทันที เมื่อไปเห็นร่างของหลานไม่หายใจก็แทบขาดใจ ปั๊มหัวใจหลายครั้งก็ไม่ฟื้น ก็รีบอุ้มขึ้นรถไปส่งรพ.ไชยวาน แต่สุดท้ายหลานก็เสียชีวิต เสียใจมากตนเองกับภรรยารักหลานคนนี้มาก ทุกเย็นหลานคนนี้จะมาเหยียบขาให้ปู่ให้หายเมื่อยเป็นประจำทุกวัน หากวิญญาณหลานคนนี้รับรู้ได้อยากบอกว่ารักหลานคนนี้มาก
แต่ที่เสียใจคือพ่อกับแม่น้องแก้มคือ นายสุเทพ และนางบัวผัน ซึ่งไปทำงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ จ.ปทุมธานี แต่ติดโควิด-19 จึงเดินทางมารักษาตัวรักษาตัวที่ จ.อุดรธานี ยังไม่หายป่วย แต่เมื่อรู้ข่าวว่าลูกสาวคนเดียวคือน้องแกมจมน้ำเสียชีวิตร้องไห้แทบขาดใจ อยากมางานศพน้องแกมก็มาไม่ได้ จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้โซ่ผูกติดกับเตียงไว้เลย
นายไพบูลย์ บอกอีกว่า ตนมีลางสังหรณ์คืนก่อนน้องแกมจะจมน้ำเสียชีวิต ไม่คิดจะเป็นจริงตามคำโบราณว่า เพราะคืนนั้นตนเองได้ยินเสียงกามาร้องใกล้บ้านทางทิศตะวันออกของบ้าน ตนก็เอะใจกาอะไรมาร้องตอนกลางคืน ตอนแรกไม่คิดว่า
แต่บ่ายวันต่อมาพอหลานจมน้ำตายก็มาคิดว่ากามาร้องเหมือนจะบอกลางร้ายอะไรบางอย่าง เพราะชาวบ้านเชื่อว่า ถ้ามีการ้องหรือกาผ่านหมู่บ้านต้องมีหละศพหนึ่งหรือสองศพแน่นอนแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับหลานสาวคนเดียวของตนเองจุดเกิดเหตุสระน้ำก็อยู่ทางทิศตะวันออกของบ้านห่างจากบ้านเกือบกิโลเมตร
ขณะที่ บ้านงานศพอีกหลัง ด.ญ.เนย อายุ 10 ขวบ ตั้งอยู่หมู่ 4 บ้านหนองแวงตาด ต.คำเลาะ ซึ่งเป็นที่ศพบำเพ็ญกุศล ได้มีเพื่อนบ้านและญาติๆ ต่างพากันเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจและเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถาม นางราณี อายุ 49 ปี ย่าของน้องเนย เปิดเผยว่า หลังจากพ่อและแม่ของน้องเนยแยกทางกัน ตนเองและสามีก็เลี้ยงหลาน 3 คน รวมทั้งน้องเนยซึ่งเป็นคนโตมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ด้วยฐานะทางบ้านเรายากจน เวลาตนเองออกไปทำงานรับจ้าง ทุกครั้งที่ไปทำงานก็จะเอาหลานทั้ง 3 คนไปด้วย แต่เมื่อวานหลานบอกว่าเขาจะทำงานส่งครู เลยไม่ได้เอาหลานไปด้วย แต่สุดท้ายก็มาเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ตนเสียใจจนร้องไห้ไม่มีน้ำตาแล้ว รักเขาเหมือนลูก เขาเป็นเด็กดีใครใช้อะไรไปหมดไม่มีว่าจะบ่นสักคำ เมื่อวานเมื่อญาติโทรไปบอกว่าเมื่อน้องเนยจมน้ำตา ก็พูดอะไรไม่ออก แขนขาอ่อนเดินแทบไม่ไหว ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้จนแทบขาดใจ
นางราณี ซึ่งพูดไปปาดน้ำตาไป ฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองว่า ให้ดูแลลูกหลานให้ดี อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบครอบครัวของตนเอง
ส่วน นายประดิษฐ์ ปู่ของน้องเนย เปิดเผยว่า ตนเองป่วยเป็นเบาหวาน นิ้วเท้าอักเสบทำงานไม่ได้ เสียใจมากที่หลานสาวคนนี้จากไป พูดไม่ออก พูดไปร้องไห้ไป เขาเป็นเด็กใช้ง่าย บอกให้ไปไหนก็ไป บอกให้พาปู่ไปรพ.ก็อาสาขับรถจยย.พาไป
“ผมเสียใจมาก จนไม่รู้จะพูดอะไร ร้องไห้ทั้งวัน เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยฐานะเรายากจน หากผมเป็นเศรษฐีผมจะซื้อโลงศพทองคำให้หลานสาวเสียด้วยซ้ำ ผมตายแทนหลานได้”
ด้าน น้องเฟิร์ส วัย 9 ขวบ เพื่อนที่งมหอยเห็นเพื่อนจมน้ำต่อหน้าต่อตา บอกว่า ได้ชวนกันมางมหาหอยที่สระน้ำท้ายหมู่บ้านมีพี่เนย น้องแกม พี่ดาด้า และหนู พอมาถึงก็พากันลงน้ำงมหาหอยใกล้ๆ ฝั่ง
จากนั้นพี่เนยและน้องแกมก็พากันเดินใกล้ฝั่งไปบริเวณจุดที่จมน้ำ ไม่นานก็เห็นน้องแกมลื่นไถลไปตรงน้ำลึกจมน้ำทันทีและพี่เนยก็จะไปช่วยจมน้ำไปอีกคน หนูก็วิ่งจะเข้าไปช่วยและกำลังจะจมน้ำ พอดีมีชาวบ้านมาช่วยหนูก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด รู้สึกเสียใจและตกใจมากที่เห็นเพื่อนมางมหอยด้วยกันจมน้ำต่อหน้าต่อหน้า