เด็กหญิง 10 ขวบ ท้องโตผิดปกติ พ่อแม่ช็อกผลตรวจตั้งครรภ์เป็นบวก ทั้งที่ยังไม่มีประจำเดือน หมอเฉลยก้อนในท้องคืออะไร

เสี่ยวหง เด็กหญิงอายุ 10 ปี จากประเทศจีน เริ่มมีอาการท้องผูกและท้องอืดเมื่อไม่นานมานี้ ในตอนแรกครอบครัวของเธอคิดว่าเป็นเพียงอาการท้องผูกปกติเนื่องจากลำไส้ทำงานไม่ดี เพื่อบรรเทาความไม่สบาย ครอบครัวจึงพาเธอไปนวดเด็ก แต่ระหว่างนวด หมอนวดพบว่าท้องของเสี่ยวหงบวมผิดปกติไม่ใช่แค่ท้องอืดเท่านั้น จึงแนะนำให้พ่อแม่ของเธอพาไปพบแพทย์

หลังจากที่เสี่ยวหงเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาล ผลการตรวจทำให้พ่อแม่ของเธอตกตะลึง การอัลตราซาวนด์ทางนรีเวชแสดงให้เห็นว่ามีก้อนขนาดใหญ่ในท้องของเสี่ยวหง ขนาดเท่ากับการตั้งครรภ์ 6 เดือน สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือการทดสอบแสดงผลการตั้งครรภ์ที่เป็นบวก

แม่ของเสี่ยวหงถามด้วยความกังวลว่า “ลูกสาวของฉันปกติแล้วแข็งแรงมาก เธอสุขภาพดีมาตั้งแต่เด็ก นอกจากอาการท้องผูกบ่อยครั้งก็แทบไม่มีปัญหาอื่นเลย แล้วทำไมถึงมีก้อนใหญ่แบบนี้ในช่วงเวลาอันสั้นได้ ลูกสาวของฉันอายุเพียง 10 ปีและยังไม่เคยมีประจำเดือน แล้วทำไมผลตรวจการตั้งครรภ์ถึงเป็นบวก?”

หลังจากที่แพทย์ตรวจอย่างละเอียดก็พบว่า ก้อนที่ใหญ่ในท้องของเสี่ยวหงเป็นเนื้องอกเซลล์สืบพันธุ์ที่เกิดจากรังไข่ ผลตรวจการตั้งครรภ์ที่เป็นบวกเกิดจากเนื้องอก ไม่ใช่เพราะเธอตั้งครรภ์

หลังจากผ่าตัดประมาณ 50 นาที แพทย์ได้ทำการผ่าเอาเนื้องอกขนาด 2.5 กิโลกรัมออกจากท้องของเด็กหญิง การตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยาแสดงว่าเป็นเนื้องอกเซลล์สืบพันธุ์ชนิดผสมที่มีองค์ประกอบที่เป็นมะเร็ง และต้องเข้ารับการเคมีบำบัดหลังการผ่าตัด

เนื้องอกเซลล์สืบพันธุ์ของรังไข่เป็นกลุ่มของเนื้องอกที่เกิดจากเซลล์ต้นกำเนิดดั้งเดิม โชคดีที่ถูกตรวจพบในระยะเริ่มต้นและสามารถผ่าออกได้ในระยะเริ่มต้น เมื่อได้รับการรักษาตามมาตรฐานในภายหลัง เสี่ยวหงสามารถฟื้นตัวได้เต็มที่

เนื้องอกเซลล์สืบพันธุ์มักเกิดในเด็กและวัยรุ่น โดยมีอุบัติการณ์ถึง 60-90% ก่อนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เช่น เทอราโตมา, เนื้องอกมะเร็ง, และเนื้องอกชนิดเอ็นโดคริน ซินัส

เนื้องอกรังไข่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการที่ชัดเจน บางรายอาจมีอาการเช่นท้องผูก, ท้องอืด, ท้องบวม, บวมน้ำที่ขาหรือลำตัว หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ ในความเป็นจริง เด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์มักไม่มีการตรวจสุขภาพนรีเวชเป็นประจำ และอาการทางคลินิกในระยะแรกของเนื้องอกประเภทนี้มักไม่ชัดเจน จึงง่ายต่อการพลาดการวินิจฉัย

ผู้เชี่ยวชาญเตือนผู้ปกครองว่า ควรพาเด็กเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกรณีที่เด็กผู้หญิงมีอาการท้องอืด, ปวดท้อง, หรือท้องผูกที่เกิดขึ้นบ่อยหรือเป็นเวลานาน นอกจากจะพิจารณาปัญหาทางเดินอาหารแล้ว ผู้ปกครองควรให้ความสนใจว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นโรคนรีเวชหรือไม่