พ่อร้องลูกโดนแก๊งโจ๋อุ้มไปซ้อม ขังในรีสอร์ต ขู่ฆ่า ปืนจ่อ ยึดจยย.ไป หลังติดหนี้ 1,500 บาท พ่อบุกไปช่วยแต่หาตัวไม่เจอ โชคดีหนีออกมาได้ อยู่อย่างหวาดกลัว

วันที่ 1 ก.ค.65 นายสุพจน์ วันกำมิโก อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ กรณีที่ นายกิตติศักดิ์ อายุ 19 ปี ลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ประมาณ 3 คน อุ้มไปขังและทำร้ายร่างกายทั้งเตะต่อย ถือมีดและปืนจ่อหัวขู่ฆ่า สาเหตุเพราะลูกชายไปยืมเงินวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว 1,500 บาท แต่ยังไม่ได้ใช้คืน เคราะห์ดีที่ลูกชายหนีออกมาได้แต่ก็มีแผลที่ศีรษะ และบอบช้ำตามร่างกาย แถมยังโดนแก๊งวัยรุ่นขโมยรถจยย.ไปด้วย

ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.00 น. มีเพื่อนรุ่นน้องบอกให้ตนไปรับที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย ตนก็ขี่รถจยย.ไปรับตามปกติ แต่พอไปถึงก็มีกลุ่มของ นายตอง อายุประมาณ 20 – 30 ปี กับพวกรวม 3 คน ขับรถตามเข้าไปที่รีสอร์ต แล้วเข้าไปในห้องพักของน้องที่โทรให้ตนมารับ โดย นายตอง กับพวกก็ยืนขวางไว้แล้วบอกว่าถ้าไม่คืนเงิน 1,500 บาทที่ยืมไปก็ไม่ต้องไปไหน แล้วพากันเตะต่อยทำร้ายร่างกาย

จากนั้น นายตอง ก็ชักปืนออกมาจ่อที่หัวตน บังคับให้หาเงินที่ยืมไป 1,500 บาทมาคืน ซึ่งตนก็ยอมรับว่าได้ยืมเงินนายตองจริง แต่เขาไม่ได้มีกำหนดว่าให้ใช้คืนวันไหน แค่บอกว่ามีเมื่อไรค่อยเอามาคืน ส่วนอีกคนที่มากับ นายตอง ก็กำลังง้างมีดเตรียมจะฟันที่หัว ตอนนั้นคิดว่ายังไงก็คงไม่รอดจึงตัดสินใจตะโกนบอกว่า ขอโทรศัพท์หาพ่อก่อนเพื่อให้พ่อเอาเงินมาจ่ายให้ แต่พอพ่อมาถึงที่รีสอร์ต นายตอง กับพวก ได้พาตนไปขังไว้ในบ้านอีกหลังหนึ่งใน อ.ละหานทราย

แต่ตนหาจังหวะที่พวกเขาเผลอวิ่งหนีออกมาในสภาพมีแผลที่ศีรษะไม่รู้ว่าโดนอะไรบ้าง และมีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย แต่รถจยย.ตนถูกยึดเอาไว้ หลังจากหนีออกจากได้ก็รีบกลับบ้าน แต่ไม่กล้าไปหาหมอก็ปล่อยให้แผลแห้งเอง ที่สำคัญไม่กล้าไปแจ้งความ และไม่กล้ากลับไปเอารถจยย.คืนเพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก แค่มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พ่อฟัง แล้วพ่อก็ไปแจ้งความว่ารถจยย.ถูกขโมยเท่านั้น

เรื่องเงินตนไม่ได้คิดจะเบี้ยว แค่ยังไม่มีเงินไปคืนให้ แต่มาทำกันขนาดนี้ตนว่ารุนแรงเกินไป ตอนนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ไม่กล้านอนบ้านเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย เพราะ นายตอง เป็นขาใหญ่ในพื้นที่ แต่ก็อยากให้ตำรวจช่วยติดตามรถมาคืนเพราะยังค้างค่างวดอยู่ และอยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายฐานอุ้มไปทำร้ายร่างกายด้วย

ด้าน นายสุพจน์ บอกว่า วันเกิดเหตุลูกชายได้โทรศัพท์มาบอกว่าอยู่ที่รีสอร์ตถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้ปืนจ่อขู่จะยิง ตนจึงรีบขับรถไปที่รีสอร์ต แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็พาลูกชายหนีออกไปจากรีสอร์ตแล้ว โดยเอารถจยย.ของลูกชายไปด้วย ก็พยายามขับรถตามหาแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาพาลูกชายไปไหน ซึ่งตนไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีก ด้วยความเป็นห่วงจึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ละหานทราย แต่ยังเคราะห์ดีที่ลูกชายสามารถหนีมาได้ ทุกวันนี้ก็อยู่อย่างหวาดระแวงเพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก ก็อยากให้ตำรวจติดตามเอารถจยย.ของลูกชายมาคืน และดำเนินกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวด้วย