อุบัติเหตุระทึก พ่วง22ล้อ เบรกแตกลงเขาปู่โทน แหกโค้งพุ่งเสยกระบะจนกระเด็นข้ามเลน ไฟลุกท่วมทั้ง2คัน 3ชีวิตในรถกระบะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด คนขับรถพ่่วงไฟคลอกสาหัส

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 13 ส.ค.2565 พ.ต.ท.โกสินทร์ บุญชู สว.(สอบสวน) สภ.วังขอนแดง รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อเบรกแตกแหกโค้งลงเขาชนรถกระบะกระเด็นข้ามเลนเกิดไฟลุกไหม้รถทั้ง 2 คัน ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หน้าศาลเจ้าพ่อปู่โทน ถนนสาย 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี กม. 210 ม.4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้ประสานรถน้ำจาก อบต.บุพราหมณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนาดี อาสาหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งไทย

ที่เกิดเหตุ เป็นทางโค้งลงเขาหักศอกและถนนลาดชัน รถติดยาวหลายกม. เจ้าหน้าที่ทำการปิดการจราจรทั้งขาขึ้นและขาลง พบไฟกำลังลุกไหม้ รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ฮีโน่ หัวลากสีขาว ทะเบียน 70-7665 ลำปาง ทะเบียนตัวพ่วง 70-3657 บุรีรัมย์ ในสภาพพลิกคว่ำชนอัดติดกับแนวกั้นคอนกรีตระหว่างถนน มันสำปะหลังกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น

ที่ด้านหน้ารถพบคนขับติดอยู่ภายในอาการสาหัส กู้ภัยช่วยกันใช้ฉีดน้ำเพื่อช่วยเหลือ พร้อมใช้เครื่องตัดถ่างเอาร่างออกจากตัวรถ ใช้เวลาปนะมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำร่างคนขับออกมาได้ พบบาดเจ็บจากการถูกไฟคลอก ทราบชื่อคือนายสมนึก อานประโคน อายุ 51 ปี

ส่วนฝั่งตรงข้ามถนน พบรถกระบะนิสัน สีขาว ทะเบียน ผษ-1429 ชลบุรี ถูกชนพังยับและถูกไฟไหม้วอดทั้งคัน ภายในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับ 3 ราย สามารถหนีออกจากตัวรถได้ทันก่อนไฟจะลุกไหม้ เจ้าหน้าที่พบส่ง รพ.นาดี ทราบชื่อคือ น.ส.ระมัย วันดี อายุ 55 ปี น.ส.ระเบียบ วันดี อายุ 58 ปี และนายอนุสรณ์ ยิ้มละมัย อายุ 34 ปี

นายอนุสรณ์ อายุ 34 ปี คนขับรถกระบะ เปิดเผยว่า ตนพร้อมครอบครัวขับรถมาจากจ.นครราชสีมา กำลังจะไปจ.ชลบุรี ขณะที่ขับมาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถบรรทุกพ่วงลงมาเร็วมาก ตนพยายามจะหลบแต่ไม่ทันจึงถูกรถบรรทุกพ่วงชนกระเด็นข้ามเลนไปยังอีกฝั่งจนรถเกิดไฟลุกไหม้ แต่โชคดีที่ประตูอีกข้างเปิดได้จึงรีบหนีออกมาจากตัวรถได้อย่างปลอดภัย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่ารถบรรทุกพ่วง22ล้อที่บรรทุกมันสำปะหลังมา อาจเกิดเบรกแตกขณะขับลงเขาและคนขับไปสามารถควบคุมรถได้จึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนสรุปสาเหตุที่แน่ชัดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป