ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สืบเนื่องจากวันที่ 2 ม.ค. 65 ที่ บริษัท UNIQ ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้าง กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อ สถานีกลางบางซื่อ เป็น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่าโครงการ 33,169,726.39 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- 33 ล้าน ได้อะไรบ้าง? เปิดขนาดป้ายใหม่ สถานีกลางบางซื่อ ตัวใหญ่ยักษ์
- ดราม่างบเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้าน ล่าสุดเจอสั่งสอบ รู้ผล 7 วัน
- ชาวเน็ตถาม แพงไปไหม? เปลี่ยนชื่อสถานีกลางบางซื่อ ใช้เงิน 33 ล้าน!
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ทางด้านศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความมผ่านทางเฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา ระบุว่า ศรีสุวรรณบุก สตง.สอบเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อโครตแพงขัดพรบ.จัดซื้อ-ฮั้วหรือไม่
วันนี้ (5 ม.ค.66) เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซ.อารีย์ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้มายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน/ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)ขอให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน กรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่าจ้างบริษัทเอกชนจัดทำและเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของ รฟท.ในราคากว่า 33 ล้านบาท โครตแพงเกินไปหรือไม่
ทั้งนี้ พบข้อพิรุธหลายประการจากการที่ รฟท. ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างด้วย “วิธีเฉพาะเจาะจง” ทำให้ไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ทำให้ได้ผู้รับจ้างในราคาสูงเกินสมควร อาจเป็นการขัดหรือแย้งต่อ“พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 เพราะไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน วิธีการตามที่ ม.11 กำหนดไว้ และไม่เข้าข่ายข้อยกเว้นที่จะใช้วิธีเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด อีกทั้งเป็นการขัดหรือแย้งต่อ ม.82 อย่างชัดเจน เพราะไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอน วิธีการที่กฎหมายให้ใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปและวิธีการคัดเลือกตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องทำเสียก่อน
แม้ทาง รฟท.จะออกมาแถลงชี้แจงเมื่อวันก่อน ก็ไม่มีเหตุผลหรือน้ำหนักที่เพียงพอที่จะเข้าข่ายข้อยกเว้นเกี่ยวกับการที่ต้องมีความจำเป็นเร่งด่วน และไม่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ และหากจะล่าช้าออกไปก็ไม่ทำให้กิจการของ รฟท.เสียหาย หรือล้มละลาย หรือล่มจมแต่อย่างใด และการจัดทำและติดตั้งป้าย ไม่มีเหตุผลทางเทคนิคที่ใช้เป็นข้ออ้างเพราะมีกิจการร้านค้า บริษัท หรือผู้ประกอบการมากมายในประเทศไทย ที่สามารถจัดทำและติดตั้งป้ายประเภทดังกล่าวได้
นอกจากนั้น คณะกรรมการกำหนดราคากลางทั้ง 6 คนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการนำข้อมูลผู้ประกอบการอื่นใดในประเทศนี้ มีมาเทียบราคาหรือไม่ และควรที่จะเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการดังกล่าว หากจะพิสูจน์ว่าการดำเนินงานโปร่งใสและเป็นไปตามกฎหมาย
ที่สำคัญ ชื่อสถานีดังกล่าวได้รับพระราชทานชื่อใหม่มาตั้งแต่เดือน ก.ย.2565 ต่เหตุใดจึงมีการเร่งรีบดำเนินการในเดือน ธ.ค.2565 แล้วมาใช้วิธีการประมูลแบบ “เฉพาะเจาะจง” ทั้ง ๆ ที่ รฟท.สามารถเลือกใช้การประมูลโดยให้มีคู่แข่งในการประมูล ยกเว้นจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะหรือไม่ เพราะสุดท้ายผู้ที่ได้รับงานดังกล่าวพบว่า เป็นผู้ซึ่งเคยเป็นคู่สัญญาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 โครงการ มูลค่างานรวม 52,512.028 ล้านบาท ซึ่งการใช้อำนาจดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.4 ประกอบ ม.11 ม.12 แห่ง พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับ การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 หรือกฎหมายฮั้วประมูลได้
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความมาร้องให้ สตง.ตรวจสอบตามประเด็นที่กำหนด หากพบความผิดปกติให้ส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ม.221 ด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY