พีระพันธุ์ ลุยร้อยเอ็ด ช่วยเหลือแม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูกพิการ-ออทิสติก

Home » พีระพันธุ์ ลุยร้อยเอ็ด ช่วยเหลือแม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูกพิการ-ออทิสติก


พีระพันธุ์ ลุยร้อยเอ็ด ช่วยเหลือแม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูกพิการ-ออทิสติก

พีระพันธุ์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือแม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูกพิการ-ออทิสติก และเกษตรกรยากไร้

วันที่ 14 ก.ค. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทีมงานเดินทางไปยัง บ้านเลขที่ 125 หมู่ 13 ต.โนนสวรรค์ อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาตามข้อร้องเรียนของประชาชน

กรณี นางศศิกานต์ จ่อยลา อายุ 57 ปี ร้องขอความช่วยเหลือผ่านเทศบาล ต.โนนสวรรค์ เพื่อขอนำตัวลูกสาวพิการ 2 คนเข้าสถานสงเคราะห์ชั่วคราว และ กรณีนายเคน โยธาจันทร์ อายุ 66 ปี ที่ต้องเลี้ยงครอบครัว 6 ชีวิต จากเงินผู้สูงอายุเท่านั้น ซึ่งทั้งสองกรณีต้องการความช่วยเหลือเพราะมีความลำบากในการทำมาหากินจากความยากจน

นายพีระพันธุ์ สอบถามรายละเอียดความเป็นมา ทราบว่า กรณีของนางศศิกานต์ ได้รับความเดือดร้อ เพราะต้องเลี้ยงดูบุตรสาวพิการ 2 คน และหลานชายวัย 5 ขวบอีก 1 คน เพียงลำพัง เนื่องจากสามีเสียชีวิต

โดยลูกสาวคนโตอายุ 37 ปี พิการทางการได้ยิน สื่อความหมายและพิการทางสติปัญญา ช่วยเหลือตัวเองได้เล็กน้อย ส่วนลูกสาวคนสุดท้องอายุ 22 ปี พิการออทิสติก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ขณะที่หลานชายเรียนอยู่ชั้นอนุบาล โดยพ่อของเด็กซึ่งเป็นบุตรชายคนที่สองไม่ได้ส่งเสีย ทำให้นางศศิกานต์ต้องดูแลลูกและหลานด้วยตัวเองจากเงินคนพิการของลูกสาวเท่านั้น และยังมีหนี้นอกระบบอีกจำนวนกว่า 2 แสนบาท

ขณะที่กรณีของนายเคน โยธาจันทร์ อายุ 66 ปี ชาว อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด ที่ส่งหนังสือร้องขอความช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายประจำวันเพื่อเลี้ยงครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยภรรยา หลาน และเหลน รวม 6 คนแต่มีเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และการประกอบอาชีพเลี้ยงเป็ดไก่ เท่านั้น ทำให้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ


หลังรับการร้องเรียนหน่วยงานของรัฐ ประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด และโรงพยาบาลร้อยเอ็ด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือกับผู้ร้องเรียนทั้งสองแล้ว

โดยในส่วนของนางศศิกานต์ ได้รับเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและช่วยเหลือในการดูแลสุขภาพบุตรสาวพิการทั้งสองผ่านกลไก อสม. พยาบาล และ อพม. รวมทั้งติดตามดูแลความเป็นอยู่เป็นระยะ เพื่อให้นางศศิกานต์สามารถดำรงชีวิตเลี้ยงดูครอบครัวต่อไปได้

ส่วนของนายเคน ได้รับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยช่วยเหลือ 3,000 บาท ปีละ 3 ครั้ง ซึ่งในส่วนนี้ ได้รับการช่วยเหลือไปแล้วในเดือน ก.ค. และอีกครั้งเดือน ก.ย. และหาครอบครัวอุปถัมภ์หลานทั้ง 4 คน อีกทั้งทางครอบครัวจะได้รับเงินสงเคราะห์เด็กอีกเดือนละ 5,000 บาท

นายพีระพันธ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ก็ต้องไปทั่วทุกพื้นที่ ไม่ใช่เพียงแค่ จ.ร้อยเอ็ด และต้องอาศัยผู้ว่าฯ ช่วยทำงานเพิ่มเติมด้วย เพราะ มีเรื่องร้องเรียนมาที่ 1111 จำนวนมาก อย่างเคสวันนี้ยื่นเรื่องตั้งแต่ปี 61 มาถึง 65 ทนมา 4 ปี พอนายกฯ มอบหมาย ตนก็เรียกมาดูเลยว่ามีกรณีไหนเร่งด่วนและลงพื้นที่มาเลย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ