พีระพันธ์ุ ควง ไตรรงค์ พบ บิ๊กตู่ แจงแค่หารืองานราชการ ปัดคุยการเมือง ย้ำแยกบทบาทชัดเจนระหว่างงานพรรค-งานร่วม อวย บิ๊กตู่ ยังคึกไปต่อได้อีกยาว
เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 29 ธ.ค. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกฯ และสมาชิกพรรค รทสช. พร้อมทีมงาน เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยใช้เวลาเข้าพบประมาณ 1 ชั่วโมง
นายไตรรงค์ เปิดเผยภายหลังเข้าพบว่า วันนี้ตนมาตามคำสั่งของนายพีระพันธุ์ เพื่อมาดูห้องที่มีการจัดเตรียมไว้ให้ว่าพอใจหรือไม่ โดยตนมาทำหน้าที่ที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งระยะเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีประชาชนร้องทุกข์ในเรื่องต่างๆ ทั้งปัญหาการนำเข้าส่งออก หรือปัญหาหนี้สินเกษตรกร ที่เดือดร้อนอยากให้รัฐบาลรีบดูแล
นายไตรรงค์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนมีคณะที่ปรึกษา ทั้งนักเศรษฐศาสตร์ และคนที่ผ่านงานในระดับสถาบันการเงินต่างๆ รวมถึงข้าราชการที่เกษียณแล้ว รวมกว่า 50 คน มาให้คำแนะนำว่าปัญหาเหล่านี้ควรจะแก้ไขอย่างไร จึงมากราบเรียนให้นายกฯ ทราบ ถึงแนวทางการแก้ปัญหา ว่านายกฯ จะเลือกแนวทางไหน เพราะตนเป็นที่ปรึกษา ทำหน้าที่เสนอ เมื่อเสนอไปก็ต้องบอกแนวทางที่เป็นทางเลือก ให้นายกฯ ตัดสินใจแนวทางที่ดีที่สุดให้กับประชาชน แต่ทุกแนวทางที่เสนอไปเป็นประโยชน์แน่นอน
เมื่อถามว่า นายกฯ มีอะไรอยากให้ช่วยเป็นกรณีพิเศษหรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่มี นายกฯ ไม่ได้ฝากอะไร ตนคุยกันบ่อย คุยกันเยอะ เรียกได้ว่าแทบรู้กันทุกเรื่อง ไม่ต้องฝากอะไรแล้ว แค่มองตาก็รู้ใจกัน ว่าจะต้องแก้ปัญหากันยังไง
เมื่อถามว่า ถามนายกฯ หรือไม่ ว่าจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช. วันไหน นายไตรรงค์ รีบปฏิเสธที่จะตอบคำถาม พร้อมกล่าวว่า เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค ก่อนหันไปหานายพีระพันธุ์ ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
เมื่อถามว่า หลังปีใหม่จะเข้ามานั่งทำงานในทำเนียบรัฐบาลเลยหรือไม่ เพราะมีห้องทำงานแล้ว นายไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่ใช่งานประจำ แต่เป็นงานที่เวลามีคนมาร้องทุกข์เดือดร้อน นายกฯ จะมีที่ปรึกษากี่คนตนไม่ทราบ แต่เวลาคนนึกถึงก็จะนึกถึงด็อกเตอร์ไตรรงค์นี้แหละ จะเห็นได้ว่าหนังสือร้องเรียนเต็มบ้านไปหมด
นายไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ตนก็นั่งอ่านหนังสือร้องทุกข์ว่ามีอะไรบ้าง มีตั้งแต่เรื่องตำรวจคอร์รัปชัน ตำรวจรีดไถ แต่เราจะไปล้วงลูกลึกขนาดนั้นก็คงไม่ไหว เราต้องดูแลชาติหลักใหญ่ๆ แต่ตนก็จะไม่ทิ้ง โดยมอบหนังสือร้องทุกข์นั้นกลับไปให้ตำรวจต้นสังกัด ให้ช่วยดูคนเดือดร้อนว่าทำไมไม่ช่วยกันดูแล
เมื่อถามว่า ได้ให้กำลังใจนายกฯ หรือไม่ ที่จะไปต่อ โดยเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค รทสช. นายไตรรงค์ กล่าวว่า ไม่ ตนแค่อวยพรปีใหม่กันนิดหน่อย แต่คงไม่ต้องให้กำลังใจ เพราะดูพล.อ.ประยุทธ์ ยังคึกอยู่
เมื่อถามว่า ต้องปรับลุกส์ให้พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ เพื่อให้เป็นนักการเมืองเต็มขั้น นายไตรรงค์ กล่าวว่า ของพวกนี้จะเป็นไปเองตามธรรมชาติ เมื่อถามว่า บุคลิกอย่างพล.อ.ประยุทธ์ ยังไปต่อได้ยาวใช่หรือไม่ นายไตรรงค์ กล่าวว่า บุคลิกเหมือนกับตน ไปต่อได้ เมื่อถามว่า ไม่ได้มาทำเนียบรัฐบาลนานรู้สึกอย่างไรบ้าง นายไตรรงค์ กล่าวว่า ดีใจ เหมือนได้กลับบ้านเก่า
ด้านนายพีระพันธุ์ กล่าวถึงกรณีได้มีการพูดคุยกับนายกฯ หรือไม่ว่าจะมาสมัครสมาชิกพรรค รทสช.วันใด ว่า วันนี้ไม่ได้พูดเรื่องดังกล่าว แต่วันนี้มาในเรื่องภารกิจงานราชการ ซึ่งนายกฯ ได้ให้แนวทางการทำงานเรื่องปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องความเป็นอยู่ โดยมอบแนวทางให้นายไตรรงค์ไปปฏิบัติ
เมื่อถามว่า การทำงานในส่วนของรัฐบาล และพรรครวมไทยสร้างชาติ ถือว่าแยกบทบาทกันชัดเจนหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า แยกชัดเจน ไม่เกี่ยวกัน ตนแยกหน้าที่ออก อะไรคือเรื่องส่วนตัว อะไรคือเรื่องส่วนรวม อย่างไหนงานราชการ อย่างไหนเป็นงานส่วนตัว เราแยกกันได้