การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่อัล บาวต์ สเตเดียม ประเทศกาตาร์ เมื่อคืนวันที่ 1 พ.ย. เป็นการแข่งขันกลุ่มอี นัดที่สาม คอสตาริกา ลงสนามพบ เยอรมนี โดยก่อนเกมนี้ คอสตาริกา มี 3 คะแนน จากผลงาน แพ้ สเปน 0-7 ชนะญี่ปุ่น 1-0 ส่วน เยอรมนี แพ้ ญี่ปุ่น 1-2 เสมอ สเปน 1-1
สำหรับเกมนี้ คอสตาริกา มาในระบบ 3-4-2-1 ประกอบด้วย เคย์ลอร์ นาบาส : ออสการ์ ดูอาร์เต, เคนดัลล์ วาสตัน, ฮวน ปาโบล บาร์กัส : เคย์เชอร์ ฟูลเลอร์, เซลโซ บอร์เกส, เยลต์ซิน เตเฮดา, ไบรอัน โอเบียโด : แบรนดอน อกิเลรา, โจเอล แคมป์เบลล์ : โจฮัน เบเนกัส
ส่วน เยอรมนี มาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย มานูเอล นอยเออร์ : โยซัว คิมมิช, นิคลาส ซูเล, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาวิด เราม์ : อิลคาย กุนโดกัน, เลออน โกเร็ตซ์กา : แซร์ช กนาบรี, จามาล มูเซียลา, เลอรอย ซาเน : โธมัส มุลเลอร์
เริ่มเกม เยอรมนี เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกอย่างหนัก เพราะต้องการชัยชนะสถานเดียว และเพียงนาทีที่ 10 ดาวิด เราม์ ก็เปิดให้ แซร์ช กนาบรี ขึ้นโขกเช็ด เป็นประตูให้ เยอรมนี ขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้น เยอรมนี ยังคงโหมบุกหนักเช่นเดิมแต่ยังทำได้แค่หวาดเสียวเท่านั้น ทำให้จบครึ่งแรกเยอรมนี ยังนำอยู่เพียง 1-0
ครึ่งหลังแฟนคอสตาริกา ได้เฮกันลั่นในนาที 58 เมื่อ เคนดัลล์ วาสตัน ทำชิ่งกับ โจเอล แคมป์เบลล์ เข้าไปยิงจังหวะแรกติดเซฟ นอเออร์ มาเข้าทาง เยลต์ซิน เตเฮดา วิ่งมาซ้ำเข้าไปให้ทีมตีเสมอ 1-1
จากนั้น คอสตาริกา เหมือนมั่นใจ ยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้น นาที 70 โจเอล แคมป์เบลล์ เปิดฟรีคิกจากฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบ เคนดัลล์ วาสตัน โหม่งชงให้ ออสการ์ ดูอาร์เต เกี่ยวบอลลงแล้วตวัดยิง พลิกนำ 2-1
อย่างไรก็ตามถัดมาเพียง 3 นาที เยอรมนี ยังไว้ลาย ตามตีเสมอได้สำเร็จ 2-2 จากการหลุดเข้าไปยิงของ ไค ฮาแวร์ตซ์