ชายแต่งกายคล้ายพระ อ้างเป็น เจ้าหน้าที่รัฐ เรียกเก็บภาษีป้ายโฆษณาหน้าร้าน ก่อนเหลือบเห็นกล้องวงจรปิด รีบเดินออกจากร้านซ้อนจักรยานยนต์หลบหนี
วันที่ 27 ธ.ค.2564 ที่ร้านตี๋ ชัตเตอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 23/2 ม.12 ชุมชนหนองบัว ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย นายธิติ นายทเศรษฐ หรือ ตี๋ อายุ 33 ปี เจ้าของร้านรับถ่ายภาพพระเครื่อง พระบูชา และเครื่องรางของขลัง เปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุการณ์ชายแต่งกายคล้ายพระอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปลอมตัวมาเพื่อตรวจสอบการเสียภาษีป้ายโฆษณาหน้าร้าน และจะขอเรียกเก็บเงิน แต่ถูกกล้องวงจรปิดของร้านจับภาพไว้ได้ จึงรีบหนีออกจากร้านไป
นายธิติ กล่าวต่อว่า โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันที่ 24 ธ.ค. ขณะที่ตนกำลังถ่ายภาพพระเครื่องอยู่ ก็มีชายแต่งกายคล้ายพระอายุวัยกลางคน เดินเข้ามาภายในร้าน โดยมีชายอีกคนนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่ ซึ่งได้ถามเรื่องป้ายโฆษณาหน้าร้านว่าเสียภาษีไหม ตนก็ตอบไปว่า ยินดีจะจ่ายอยู่แล้วแต่ว่าร้านเพิ่งเปิดได้ 1 สัปดาห์ ซึ่งชายดังกล่าวบอกว่า “เขามาเก็บเอง” ตนจึงบอกว่ามี 2 กรณีที่จะไปจ่ายเองหรือรอเขามาเก็บ
“จากนั้นชายคนดังกล่าวได้มองไปรอบ ๆ ร้านและพูดทำนองถามว่าป้ายที่ตั้งอยู่เสียภาษีหรือเปล่า จึงตอบไปว่าถ้าเขาจะให้เสียก็ยินยอม จากนั้นชายคนดังกล่าวก็อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปลอมตัวมาเพื่อมาตรวจสอบ แล้วถามว่า “พร้อมจะจ่ายใช่ไหม” ผมจึงก็ตอบกลับไปว่า “พร้อมจะจ่ายอยู่แล้ว” ชายคนดังกล่าวจึงนำบัตรออกมาแสดงและอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการ ที่มาก็เพื่อมาสอบถามและย้ำว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ” นายธิติ กล่าว
นายธิติ กล่าวว่า ตนจึงถามว่าจะให้ทำอย่างไร ชายคนดังกล่าวยังคงยืนยันเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มาเพื่อตรวจสอบว่าได้เสียภาษีไหม ตนจึงแจ้งว่าถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้วและร้านก็เปิดได้ไม่ถึงสัปดาห์ทำไมถึงมาไวมาก จากนั้นชายคนดังกล่าวได้มองดูภายในร้านเหมือนมองหาของมีค่า และเมื่อพบว่ามีกล้องวงจรปิดของร้านถ่ายบันทึกอยู่ จึงรีบเดินออกจากร้านไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่รออยู่ออกไปอย่างรวดเร็ว
นายธิติ กล่าวต่อว่า บุคคลดังกล่าวน่าจะเป็นพวกมิจฉาชีพ เพราะพฤติกรรมที่หน้าสงสัย ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐทำไมไม่แต่งชุดข้าราชการมา ปลอมเป็นพระทำไม ซึ่งชายคนดังกล่าวไม่เคยพบหน้ามาก่อนและคิดว่าเป็นลูกค้าปกติที่จะมาถ่ายภาพพระ และที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ จึงขอฝากเตือนถึงทุกท่านขอให้มีสติ พิจารณาเหตุการณ์ หากมีขอสงสัยหรือข้อข้องใจก็โทรหาเจ้าหน้าที่หน่วยงานนั้น ๆ เพื่อสอบถาม หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่ารีบไปจ่ายเงินทองให้กับบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ