พระพยอมชี้คลิปเสียง หลวงพี่กาโตะ พิสูจน์ได้ เห็นใจพระย้อย แนะอย่าฉายเดี่ยวให้ลุยแบบหมอปลา

Home » พระพยอมชี้คลิปเสียง หลวงพี่กาโตะ พิสูจน์ได้ เห็นใจพระย้อย แนะอย่าฉายเดี่ยวให้ลุยแบบหมอปลา


พระพยอมชี้คลิปเสียง หลวงพี่กาโตะ พิสูจน์ได้ เห็นใจพระย้อย แนะอย่าฉายเดี่ยวให้ลุยแบบหมอปลา

พระพยอมชี้คลิปเสียง หลวงพี่กาโตะ สามารถใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ เห็นใจพระย้อย แนะอย่าฉายเดี่ยวให้ลุยแบบหมอปลา

จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง พระนักเทศน์ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช ถูกระบุว่าเป็นหลวงพี่กาโตะ กับหญิงสาวชื่อตอง ต่อมาฝ่ายหญิงจะออกมาระบุว่าเป็นการกุเรื่องขึ้น เนื่องจากป่วยเป็นไบโพลาร์ ขณะเดียวกันมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วนพระย้อย พระลูกวัดที่นำคลิปเสียงออกมาเปิดเผยนั้น ถูกขับออกจากวัดไป จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 30 เม.ย.2565 ที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พระราชธรรมนิเทศน์ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า เรื่องคลิปเสียงนี้ไม่ได้ยากอะไร สามารถใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ไปตรวจพิสูจน์ได้ว่าเสียงในคลิปที่สนทนากันเป็นเสียงพระฝ่ายชายกับสีกาฝ่ายหญิงคู่กรณีกันหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ต้องไปตรวจสอบดูว่าเป็นเรื่องที่เจตนาใส่ร้ายกันเพราะสาเหตุใด เพราะเรื่องของเรื่องทางฝ่ายหญิงดันกลับลำเสียว่าเป็นโรคจิตป่วยโรคประสาทเลยทำให้เอาผิดยาก

ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองฝ่ายไปตกลงอะไรกัน หลังจากที่ฝ่ายพระออกมาขู่ว่าจะฟ้องเอาเรื่องกับฝ่ายหญิง ทำให้ต่อมาฝ่ายหญิงถึงกับกลับลำจนเรื่องจบ เรื่องนี้ฝ่ายที่เจ็บและน่าเห็นใจที่สุดคือพระย้อยที่นำคลิปเสียงมาเผยแพร่ แต่พระย้อยไม่ทันสมัย ไม่มีสื่อมวลชนสนับสนุนเหมือนสมัยที่อาตมาชนกับอดีตพระยันตระมาแล้วเช่นกัน พระย้อยเลยขาดประสบการณ์ฉายเดี่ยวไป แต่ก็เชื่อว่าพระย้อยทำลงไปเพราะมีเจตนาปกป้องพระศาสนา

อาตมาจึงอยากเตือนผู้ที่จะเปิดโปงพฤติกรรมต่างๆของพระที่ไม่ดีว่า ต้องมีหลักฐานสำคัญที่ชัดเจน และจิตใจต้องมั่นคงหนักแน่น อย่าไปฉายเดี่ยวให้ทำงานเป็นทีมเหมือนกัยหมอปลา เพราะถ้าไปฉายเดี่ยวแล้วพลาดมาจะเจ็บหนักคนเดียว เมื่อเจ็บแล้วอย่าร้อง อย่างอแง จะทำให้เสียสารรูปดูไม่ค่อยดีถ้ายิ่งเป็นพระด้วยแล้ว เรื่องบางเรื่องอาตมาขอยกคำสอนของหลวงปู่มั่นที่ท่านสอนไว้ว่า เรื่องจริงบางเรื่องถ้าแฉแล้วไม่มีประโยชน์เป็นโทษแก่ตนก็อย่าไปทำเลย เพราะจะกลายเป็นทุกข์เป็นโทษแก่ตน

พระพยอม กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่มีใครเห็นคาหนังคาเขาคาตา ทำให้พูดยากจะสรุปเลยก็ยังไม่ได้ เพียงแต่ต้องค่อยๆสอบสวนกันไปเรื่อยๆ ว่ามีการโอนเงิน เบิกเงินวัดไปไหน ไปทำอะไร โอนให้คู่กรณีหรือไม่ ตรวจสอบพบก็จะมีความผิดในเรื่องนี้แทน นอกจากนี้อาตมาขอฝากไปยังหญิงสาวที่ชื่อตองด้วยว่า คิดได้ยังไงที่ไปทำอะไรกับพระแบบนี้ เดินไปไหนต้อวเอาปีปคลอบหัวไปด้วย เหมือนทำพาสสปอร์ตจองไปนรกแล้ว

ใครเป็นญาติเป็นครอบครัวพากันอับอายเดือดร้อนไปหมด อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ชายหนุ่มอื่นก็มีตั้งเยอะแยะแต่กลับมาเลือกพระ อย่าอ้างว่าป่วยจิตป่วยประสาทแล้วไปทำกับพระอย่างนี้เลย คนป่วยคนอื่นๆไม่เห็นไปทำกับพระแบบนี้ ไม่งั้นอีกหน่อยไม่อ้างป่วยจิตแล้วเข้าไปทำกับพระแบบนี้จนศาสนาเสียหายยับเยินหมดหรือ สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจย่อมรู้ดี ป่านนี้คงร้อนรุ่มเหมือนตกนรกไปแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ