การแข่งขันเซปักตะกร้อ ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ทัพลูกหวายทีมชาติไทย ลงสนามนัดแรกพบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง มาเลเซีย ซึ่งนัดนี้มีความหมายเปรียบเสมือนรอบชิงชนะเลิศ เริ่มจากทีม A ไทยส่ง “ยาวปืนใหญ่” สิทธิพงศ์ คำจันทร์ ลงเสิร์ฟ, ภัทรพงศ์ ยุพดี ทำหน้าที่ชง และภูตะวัน โสภา ลงฟาด โดยทีม A ของไทย เล่นได้อย่างเหนือชั้นกว่ามาเลเซียก่อนจะเอาชนะไปแบบไม่ยากเย็น 2-0 เซ็ต 21-4, 21-19
ต่อที่ทีม B ไทยส่ง พรเทพ ถิ่นบางบน ลงเสิร์ฟ ส่วนตัวชงเป็นหน้าที่ของ ยศวัจน์ อุทัยเจริญศรี และ “ปุ้ย” พรชัย เค้าแก้ว ตัวเก๋าของทีมตะกร้อไทยเป็นตัวฟาด ปรากฏว่า ทีมตะกร้อไทยยังเหนือชั้นกว่ามากฟาดเอาชนะไปได้อีก 21-16, 21-11
สุดท้ายทีม C ไทยส่ง กฤษณพงศ์ นนทะโคตร เสิร์ฟ, ราชัน วิพันธ์ ตัวทำ และจิระศักดิ์ ผักบัวเงิน โยน ซึ่งไทยเอาชนะไปได้อีก 21-9, 21-7
สรุปทีมตะกร้อทีมชุดชายของไทยเอาชนะไป 3-0 ทีม ทำให้ไทย จ่อคว้าแชมป์ซีเกมส์ เป็นสมัยที่ 18 และเพิ่มสถิติ ตะกร้อทีมชุดไทยไม่แพ้มาเลเซีย มา 29 ปีแล้ว
สำหรับนัดต่อไป ตะกร้อทีมชุดไทย จะพบกับ เวียดนาม วันที่ 14 พ.ค. เวลา 09.00 น.
หลังการแข่งขัน พรชัย เค้าแก้ว เผยว่า สำหรับครั้งนี้ เป็นซีเกมส์ครั้งที่ 10 ของตน รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนาน ที่ผ่านมาคว้ามาแล้ว 16 เหรียญทอง ครั้งนี้ไทยลุ้น 3 อีเวนต์ซึ่งเป้าหมาย ก็ยังคงเหมือนเดิมคือคว้าทั้ง 3 เหรียญทอง
“การชนะมาเลเซียได้ ทำให้มั่นใจว่าจะคว้าเหรียญทองได้สำเร็จในประเภททีมชุด แต่ก็ยังประมาทอีก 2 ทีมที่เหลืออย่างเวียดนาม และ กัมพูชา ไม่ได้ สำหรับผมอยากคว้าเหรียญที่ 17 18 และ 19 ของตัวเองให้ได้ และตั้งใจจะเล่นเอเชียนเกมส์ 2022 ที่หางโจว อีกสักครั้ง แต่เอเชียนเกมส์ ก็ดันมาเลื่อนไปเสียก่อน ก็จะรอดูว่า หากกำหนดเอเชียนเกมส์ เลื่อนไปไม่เกิน ต้นปีหน้าก็อยากจะลงเล่นเอเชียนเกมส์ อีกสักครั้ง ส่วนซีเกมส์ ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้าย เพราะอยากเปิดโอกาสให้น้องๆรุ่นใหม่ด้วย แต่หากสมาคมฯ ต้องการให้ผมมาช่วยงานเป็นสต๊าฟโค้ช ก็ยินดี”