พยาบาลห้องฉุกเฉิน เดินร้องไห้ หอบหิ้วสัมภาระไปกักตัวกว่า 10 คน หลังผู้ป่วยโควิดปกปิดข้อมูล
ภาพเหตุการณ์ขณะที่พยาบาลงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน หรือ ห้องฉุกเฉิน รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช เดินแถวร่ำไห้พร้อมนำกระเป๋าสัมภาระออกจากห้องฉุกเฉิน เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัวติดตามอาการ หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาหลังจากผู้ป่วยรายหนึ่งตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในชั้นต้นและปกปิดข้อมูลทำให้แพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยรายนั้นได้รับผลกระทบทั้งหมด
โดยคลิปนี้ได้ถูกส่งต่อในโซเชียลมีเดีย สร้างความเห็นอกเห็นใจแพทย์และพยาบาลอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์โรคระบาดในขณะนี้ โดยมีการเรียกร้องให้ผู้ป่วยหยุดปกปิดข้อมูลเพื่อ เซฟเจ้าหน้าที่บุคคลากรทางการแพทย์ในช่วงสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้
ขณะที่นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เปิดแถลงสถานการณืประจำวันในส่วนของนครศรีธรรมราช ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าสาเหตุเกิดจากการปกปิดข้อมูลของผู้ป่วยรายหนึ่ง ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบกับบุคลากรทางการแพทย์จำนวนกว่า 10 คน ที่ต้องหายไปจากระบบงานเวชศาสตร์ฉุกเฉินของ รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช
เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินการทางคดีกับผู้ที่ปกปิดข้อมูลหรือไม่ นายแพทย์จรัสพงศ์กล่าวว่าในกรณีเช่นนี้สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคำนึงถึงผู้ป่วยที่ได้รับความทุกข์จากโรคอยู่แล้ว ในทางการแพทย์ไม่ควรเข้าไปทำให้ทุกข์มากขึ้นไปอีก ดังนั้นสิ่งที่บุคลากรทางการแพทย์ทำได้ในขณะนี้คือการเพิ่มความระมัดระวังตัวเอง ยกระดับการป้องกันต้องสันนิษฐานว่าทุกคนที่เข้ามาป่วยติดเชื้อไว้ก่อน
นอกจากนั้นนายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังกล่าวว่าถึงกรณีข้อมูลของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายหนึ่งในอำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกเผยแพร่ออกมานั้น ได้ขอโทษผู้ป่วยรายนั้นแล้ว พร้อมกันนั้นได้สั่งการให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุ่งใหญ่ ตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงถึงข้อมูลในงานเวชระเบียนที่หลุดออกมาได้อย่างไรเพื่อให้มีการดำเนินการไปตามขั้นตอน
ส่วนผู้ป่วยที่ติดเชื้อในวันนี้เพิ่มขึ้น 22 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมในระลอกเดือนเมษายนจำนวน 215 ราย มีผู้ป่วยที่อยู่ในระดับวิกฤติ 1 ราย เป็นชายชราอายุกว่า 80 ปี มีผู้ที่รักษาอาการหายแล้วและกลับบ้านไปใช้ชีวิตตามปกติแล้วจำนวน 6 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อที่ปรากฎในวันนี้เป็นกลุ่มที่เจ้าหน้าที่ติดตามสอบสวนจากกลุ่มเสี่ยงสูงจากผู้ติดเชื้อรายเดิม และมีผู้ป่วยที่ปรากฎใหม่จากการเดินทางมาเยี่ยมบ้านของเครือญาติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น