บริษัทตะลึง แม่ช่วยลูกสาววัย 28 ปีหางาน แต่มีกฎสาวถือพรหมจรรย์ ห้ามทำงานร่วมกับผู้ชาย และต้องเลิกงานถึงบ้านก่อน 5.30 น. ป้องกันผีร้ายรังควาน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาปรากฏการณ์อัตราการเกิดที่ลดลงในไต้หวันเป็นเรื่องร้ายแรงผู้ปกครองหลายคนที่เต็มใจจะมีลูกเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ปกครองในรุ่นก่อนๆ มีความเอาใจใส่และความรักต่อลูก ๆ อย่างชัดเจนมากขึ้นและปรากฏการณ์ของการคุ้มครองเด็กที่เกินจริง ก็ได้ปรากฏออกมาทีละอย่างๆ เช่นกัน
ล่าสุดมีชาวเน็ตไต้หวันออกมาเปิดเผยเรื่องราวชวนมึนงง โดยเล่าว่าขณะนี้บริษัทของเธอกำลังรับสมัครพนักงานต้อนรับอยู่ และได้มีคุณแม่รายหนึ่งเห็นข้อมูลการรับสมัครของบริษัท จึงเสนอตัวช่วยลูกสาววัย 28 ปี สอบถามเรื่องตำแหน่งงานว่าง ในตอนแรกพนักงานหญิงที่แผนกต้อนรับไม่ได้คิดมากอะไร เพียงแค่ทักทายอย่างสุภาพและแนะนำว่า “สามารถนำเรซูเม่ของเธอมาส่งได้ทุกเมื่อตามเวลาทำการของบริษัท แล้วฝ่ายบุคคลของเราจะสัมภาษณ์เธอหลังจากนั้นค่ะ”
แต่แม่ก็ถามข้อมูลของทางบริษัทแทนลูกสาวว่า ตำแหน่งงานที่ว่างอยู่นั้นจะต้องมีการทำงานติดต่อกับผู้ชายไหม? ทางพนักงานจึงแจ้งข้อมูลเบื้องต้นกลับไปว่า ต้องทำงานให้ลูกค้าทุกคนท้ังชายหญิง เพื่อนร่วมงานเองก็มีทั้งชายหญิง และหัวหน้างานในที่ทำงานก็เป็นผู้ชาย เมื่อได้ยินดังนั้นคุณแม่ก็ขมวดคิ้วทันทีและพูดว่า “ทำไม่ได้ ลูกสาวของฉันถือพรหมจรรย์ กำลังฝึกฝนเป็นพระนางพรหมจารี และพระนางพรหมจารีได้สั่งสอนว่า เธอแตะต้องเด็กผู้ชายไม่ได้ แม้แต่พ่อของเธอเอง ทั้งสองก็ไม่เคยแตะต้องกัน” ซึ่งทำให้พนักงานแผนกต้อนรับรู้สึกไปไม่ถูกเมื่อได้ยิน
ไม่เพียงเท่านั้น คุณแม่ยังคงถามข้อสงสัยต่อไปว่า “เลิกงานกี่โมงคะ? ต้องทำงานล่วงเวลามั้ย? ลูกสาวฉันกินได้แค่มังสวิรัติเท่านั้นนะ! ” พนักงานต้อนรับก็ยังคงตอบอย่างใจเย็นว่า “บางครั้งดิฉันเองก็ต้องทำงานล่วงเวลา และบางทีก็ต้องช่วยฝ่ายสินค้าคงคลัง หรือช่วยนักบัญชีลงรายการและชำระบิล แต่ที่บริษัทมีการจ่ายค่าล่วงเวลาให้ค่ะ และทางบริษัทยังช่วยสั่งอาหารมังสวิรัติให้พนักงานได้ด้วย”
แต่คุณแม่ก็ยังอุทานเสียงดังอีกครั้งว่า “นั่นไม่ได้ พระนางพรหมจารีตรัสว่าจะต้องถึงบ้านก่อน 17.30 น. เพื่อไม่ให้วิญญาณชั่วร้ายมารบกวน เมื่อลองดูอีกครั้ง ที่ตั้งบริษัทของคุณค่อนข้างวุ่นวาย และฮวงจุ้ยไม่ดี น่าจะรบกวนการฝึกฝนของลูกสาวฉัน” เมื่อพูดจบก็หันหลังเดินจากไป ท่ามกลางความตกตะลึงของพนักงาน จากข้อกำหนด 3 ข้อที่เกินจริง เป็นมังสวิรัติ ติดต่อผู้ชายไม่ได้ และยืนยันว่าต้องออกจากงานก่อนเวลา 05.30 น.
ผู้โพสต์ยังบอกด้วยว่า ต่อมาเรื่องราวนี้ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาในกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่แผนกต้อนรับ บางคนหัวเราะ บางคนส่ายหัว ในขณะที่ชาวเน็ตหลังจากที่ได้อ่านเรื่องนี้ก็แสดงความคิดเห็นว่า “สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในบทความนี้ ไม่ใช่ลูกสาวที่เป็นสมบัติของแม่ แต่เป็นระดับของไสยศาสตร์ต่างหาก” , “สำหรับป้าคนนี้คฆาวิเศษคงมีค่ามากกว่าเงินเดือนในที่ทำงาน”