กทม. ผู้ว่าฯอัศวิน เร่งสำนักสิ่งแวดล้อม บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์ เตรียม มาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 กำชับคณะกรรมการฯ เข้มงวดควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศ จากแหล่งกำเนิดหลักในพื้นที่กรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ศาลาว่าการกทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เผยว่า สำนักสิ่งแวดล้อมได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามสถานการณ์ และเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2565
ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ซึ่งกทม.ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดหลักในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ การควบคุมมลพิษจากยานพาหนะ การควบคุมมลพิษจากสถานประกอบการ การควบคุมมลพิษจากการก่อสร้าง และการควบคุมมลพิษจากการเผาในที่โล่ง
ทั้งนี้ได้กำชับในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ครั้งที่ 1 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดการควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศ จากแหล่งกำเนิดหลักในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย
สำหรับการรณรงค์ลดการเผาในพื้นที่เกษตร สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขตที่มีพื้นที่ทำการเกษตร เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบพื้นที่และรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือจากประชาชน งดเผาเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูก งดการเผาในที่โล่ง
รวมถึงการควบคุมแหล่งกำเนิดและกิจกรรมที่ทำให้เกิดมลพิษ เพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดการทำกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศ ตลอดจนการบูรณาการความร่วมมือในการจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 จากการเผาในที่โล่งอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนสำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขตในการการฉีดล้างถนนและใบไม้เพื่อดักจับฝุ่นละออง รวมถึงควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะและการเผาในที่โล่ง ตลอดจนกำชับให้สถานีดับเพลิงและกู้ภัยเข้าดับไฟไหม้หญ้าที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด เพื่อลดปัญหาแหล่งกำเนิดของ PM 2.5
สำหรับการดำเนินการเพื่อลดการเผาในพื้นที่เกษตรนั้น สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้แจ้งให้สำนักงานเขตถือปฏิบัติฯ ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้ 1. ภาวะปกติ ดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535
โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ สอดส่องและกวดขันไม่ให้มีการฝ่าฝืนโดยเคร่งครัด ตักเตือนผู้กระทำความผิดหรือสั่งให้ผู้กระทำความผิดแก้ไขความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย จับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งไม่เชื่อฟังคำตักเตือนและดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติ ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
2. ภาวะไม่ปกติ ดำเนินการตามมาตรา 21 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ในกรณีที่เจ้าของที่ดินปล่อยปละละเลยไม่ดูแลที่ดินของตน ปล่อยให้มีการทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย มีวัชพืชเหี่ยวแห้งหรือมีสภาพสกปรกรกรุงรัง อันเป็นเหตุที่อาจทำให้เกิดไฟไหม้หรือคาดว่าจะเกิดไฟไหม้ขึ้นได้
โดยสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ตามความจำเป็นในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีความผิดตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และประชาชนที่พบเหตุไฟไหม้หญ้าหรือสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุทางสายด่วน โทร.199 หรือ 1555 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามกทม.มีช่องทางการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นละอองให้ประชาชนรับทราบแบบเรียลไทม์ พร้อมรายงานข้อมูลและให้คำแนะนำในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 ผ่านช่องทางต่างๆ
ประกอบด้วย เว็บไซต์ www.bangkokairquality.com www.air4bangkok.com www.prbangkok.com เฟซบุ๊ก : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
เพจเฟซบุ๊ก : สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ แอปพลิเคชัน : AirBKK รวมถึงจอแสดงผลบริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ และจอแสดงผลแบบเคลื่อนที่
หากพบค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐานต่อเนื่อง จะมีการเพิ่มความถี่การแจ้งเตือน เป็นวันละ 3 รอบเวลา คือ 07.00 น. 12.00 น. และ 15.00 น. เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยง งดกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง พร้อมแนะนำการปฏิบัติตน หากจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้ง