สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยปกติแล้วร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันที่ค่อนข้างต่ำกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว หากเกิดการติดเชื้อโควิด-19 ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงที่อาการของโรคจะรุนแรงมากขึ้นและร่างกายจะต่อสู้กับเชื้อได้น้อยลง จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ป่วยมะเร็งทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างเร็วที่สุด เพื่อลดโอกาสการเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นได้
ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากหากได้รับเชื้อโควิด-19 เพราะร่างกายมีภูมิต้านทานที่ต่ำกว่าปกติ จึงมีความเสี่ยงที่เชื้อจะอยู่ในร่างกายได้นานกว่าและเกิดอาการรุนแรงกว่าบุคคลทั่วไป จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีน-19 โดยเร็ว แต่ผู้ป่วยมะเร็งมีหลายกลุ่ม เพื่อให้การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพที่สุดควรได้รับการฉีดให้เหมาะสม
ผู้ป่วยมะเร็งกลุ่มไหนบ้าง ที่สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้
ในผู้ป่วยที่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ทันที คือ
- ผู้ป่วยมะเร็งที่ผ่านการวินิจฉัยแล้วแต่ยังไม่ได้รับการรักษา หรืออยู่ในขั้นตอนการรักษารับประทานยาและพบแพทย์ทุกเดือน
- ผู้ป่วยที่รักษาจนหายแล้วที่ไม่มีประวัติแพ้วัคซีน
- ในผู้ป่วยมะเร็งที่รับการผ่าตัดควรฉีดวัคซีนก่อนหรือหลังการผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์
- ผู้ที่ปลูกถ่ายไขกระดูกจะต้องเว้นระยะให้ร่างกายฟื้นตัวและไม่มีภาวะแทรกซ้อนปรากฏหลังการรักษาประมาณ 3 เดือน จึงจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้
- ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันที่ได้รับยาเคมีบำบัดทำลายเซลล์มะเร็ง ให้ฉีดวัคซีนเมื่อเกณฑ์ของเม็ดเลือดขาวมีระดับปกติ
- ในกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รับยาฉีด อาทิ ยาเคมีบำบัด ยาพุ่งเป้า ยาฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และที่ได้รับรังสีรักษา ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19
ในส่วนของญาติผู้ป่วยโรคมะเร็งก็ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเร็วที่สุดเช่นกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้ป่วย
ข้อปฎิบัติของผู้ป่วยมะเร็งก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19
- ก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนผู้ป่วยควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-7 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำ 500-1000 ซีซี
- เลี่ยงการดื่มชา กาแฟ
- ทำจิตใจให้สบายไม่เครียด
- ถ้ามีอาการไข้ไม่สบายให้เลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อน
- ไม่ควรกินยาที่ไม่ใช่ยารักษาโรคประจำตัวหรืออาหารเสริมก่อนเข้ารับวัคซีน
การดูแลตัวเองหลังฉีดวัคซีนโควิด-19
- หากมีไข้หรือปวดศีรษะสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- หากมีผื่นลมพิษ ไข้สูงมาก หน้ามืด เป็นลม แขนขาอ่อนแรง เจ็บหน้าอกให้พบแพทย์ทันที
- ควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อย รักษาระยะห่างทางสังคม
- ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามนัดหมายทั้ง 2 เข็ม หากมีคำถามหรือข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวทันที
นอกจากนี้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถฉีดวัคซีนได้ทุกตัว โดยต้องเป็นวัคซีนที่ได้มาตรฐาน ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขแล้วเท่านั้น