ผู้ปกครอง ร้อง รุ่นพี่ นร.หญิงม.3 รุมทำร้ายรุ่นน้อง นร.ชายม.1 บาดเจ็บ เผย ตร.ไม่รับแจ้งความ ครูอ้างนร.ทะเลาะกัน ไม่ได้มีการรุมทำร้าย
วันที่ 2 ก.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ปกครองรายหนึ่ง นำคลิปเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายที่เกิดภายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งจ.นครศรีธรรมราช ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน เป็นภาพนร.ชาย ม.1 อยู่ในวงล้อมของกลุ่มรุ่นพี่นร.หญิง ม.3 ราว 6 คน ลักษณะคล้ายกับรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 30 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา ก่อนที่ผู้ปกครองของนร.ที่ถูกทำร้าย ได้แจ้งไปที่ทางโรงเรียนให้รับทราบ
แม่ของนร.ชายม.1 ที่ถูกทำร้าย กล่าวว่า รู้สึกตกใจและไม่สบายใจอย่างมาก เหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงเรียนซึ่งควรเป็นสถานที่ปลอดภัย และหากรุนแรงกว่านี้จะหาใครรับผิดชอบได้หรือไม่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือการรุมทำร้าย ไม่ใช่เรื่องของการทะเลาะโต้เถียงกันธรรมดาของนร. หลังจากเกิดเหตุเมื่อเพื่อนของลูกแจ้งมาจึงเดินทางไปโรงเรียนนำลูกไป รพ.พบว่าได้รับบาดเจ็บมีแผลในหู ที่ใบหน้า ขณะที่นร.ที่รุมทำร้ายก็ยังไม่มีจิตสำนึก
โดยแพทย์ระบุว่า หากแจ้งความต้องให้ตำรวจส่งตัวมาตรวจร่างกายตามเอกสารตามขั้นตอนอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นครูได้โทรศัพท์ตามไปคุยเรื่องนี้กลับถูกกดดันให้เรื่องยุติ อ้างว่าเป็นเรื่องของนร.ทะเลาะกัน ไม่ได้มีการรุมทำร้าย นร.รับผิดทั้งสองฝ่าย และได้ตัดคะแนนไปแล้วขอให้เรื่องจบ แต่ตนเองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการรุมทำร้ายอย่างชัดเจน ครูที่เข้ามาเจรจาจึงไล่ให้ไปหาหลักฐาน จนกระทั่งได้คลิปภาพที่นร.ถ่ายไว้และส่งมาให้เป็นหลักฐาน
แม่ของนร.ชายม.1 กล่าวอีกว่า ได้ไปแจ้งความที่โรงพักในพื้นที่ แต่ปรากฏว่าตำรวจไล่กลับ และต่อว่ามาอีกว่านร.ชายทะเลาะกับนร.หญิงแล้วจะมาแจ้งความ เขาได้โทรศัพท์ไปถามครูแล้ว หากจะแจ้งความให้เอาลูกลาออกไปจากโรงเรียน ซึ่งตนเองถึงกับตกตะลึงเนื่องจากเหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นการทะเลาะกัน 2 คนแต่เป็นการถูกรุมทำร้ายนี่คือประเด็น รอให้เจ็บหนักกว่านี้ถึงจะเข้าไปแก้ไขหรืออย่างไร
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเบื้องต้นทราบว่า มีการแช็ตข้อความทะเลาะกับเพื่อนนักเรียน ม.1 ด้วยกัน ก่อนคู่กรณีได้ไปตามนร.หญิงรุ่นพี่ ม.3 มา 6 คนเพื่อเคลียร์ปัญหาให้ แต่เมื่อมาถึงรุ่นพี่ได้ชิงโทรศัพท์มือถือของนร.ที่ถูกทำร้าย จนมีการยื้อแย่งรุมทำร้ายดังกล่าว
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้พยายามประสานกับครูที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ภายในโรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล ระบุเพียงว่า เป็นเรื่องภายในที่กำลังเจรจาแก้ไขปัญหาภายใน ไม่ได้เป็นเรื่องรุนแรงอะไร