ผู้การแต้ม ฟาดเดือด หมอบางคน ไม่รู้นิติเวชแต่หวังดัง คดีแตงโมยาก4ปัจจัย

Home » ผู้การแต้ม ฟาดเดือด หมอบางคน ไม่รู้นิติเวชแต่หวังดัง คดีแตงโมยาก4ปัจจัย


ผู้การแต้ม ฟาดเดือด หมอบางคน ไม่รู้นิติเวชแต่หวังดัง คดีแตงโมยาก4ปัจจัย

ผ่าอีกรอบเชื่อผลดี ผู้การแต้ม ฟาดเดือด หมอบางคน ไม่มีความรู้นิติเวชแต่หวังดัง คดีแตงโมยากจาก4ปัจจัย ให้คะแนนตร.ทำคดี100เปอร์เซ็นต์ แม้คนเสื่อมศรัทธาสีกากี

รายการ เป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.15 น. ทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” ได้สัมภาษณ์ “พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ” หรือ “ผู้การแต้ม” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กรณีที่สังคมไม่ไว้ใจการทำงานขององค์กรตร.ที่ทำคดี “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” มีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร

โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมหรือจัดฉากอำพรางมั้ย?
วิชัย : คดีน้องแตงโมไม่ใช่คดียาก หรือคดีที่ซับซ้อนเลย แต่ที่ยากคือการทำให้สังคมเข้าใจวิธีการทำงานของตำรวจ เพราะว่าโซเชียลนำไปแล้ว ความเชื่อมันนำไป เพราะ 1 แตงโมเป็นดารา มีเพื่อนที่รักเยอะ เป็นดาราที่มีประชาชนรัก เมื่อแตงโมเสียชีวิตเลยกลายเป็นเรื่องที่สังคมสนใจ อันที่ 2 พวกที่เกี่ยวข้องก็คือกลุ่มพวกไฮโซ คนเลยมองว่าเป็นคนมีตังค์จะต้องมีอภิสิทธิ์ สมัยก่อนคือคนเข้าใจว่าคนรวยจะต้องไม่ติดคุก เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่แล้ว

มันมีคำพูดว่าคุกมีไว้ขังคนจน?
วิชัย : ผมถึงพูดให้ฟังไงว่าตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เดี๋ยวนี้คนรวยพอมีเข้าคนจะขยี้เลย และอันที่ 3 ผมว่าองค์กรตำรวจของเราเนี่ยประชาชนขาดความเชื่อมั่น มันก็เลยเป็นข่าวที่สังคมจะต้องติดตาม อันที่ 4 เพราะว่าโซเชียล สืบและนำไปจนเกินความเป็นจริงไป คดีนี้เลยไปกันใหญ่เลย ต่อมาสื่อมวลชนเองบางทีก็ไปเอาคำพูดของคนบางคนมาขยายความ ความเชื่อมันในตำรวจหรือกระบวนการต่างๆ เลยขาดความเชื่อมั่น

ปัญหาคือบางอย่างในโซเชียลเราไม่ได้รับรู้จากตำรวจแต่เรากลับได้รับรู้จากประชาชนหรือสำนักข่าวต่างๆ ไม่ว่าจะกล้องวงจรปิดหรือจากสะพาน จริงๆแล้วตำรวจจะต้องเป็นคนมานำเสนอหรือเปล่าครับ?
วิชัย : ไม่ใช่ เดี๋ยวผมจะพูดตามหลักให้ฟังก่อน คดีน้องแตงโมเนี่ยเป็นคดีที่ความตายผิดธรรมชาติ เมื่อการตายผิดธรรมชาติตำรวจต้องชันสูตรหาสาเหตุ ดังนั้นตำรวจเขาต้องไปหาหลักฐาน 3 อย่างด้วยกัน อย่างแรกจากพยานบุคคล สองคือพยานวัตถุที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ต่อไปก็นิติวิทยาศาสตร์จากตัวผู้ที่เกี่ยวข้องและตัวของน้องแตงโมเอง

มันมีประเด็นนึงครับเขาบอกมันมีเรือ 2 ลำ จากภาพ?
วิชัย : ที่น้องบอกว่าเรือตามมารู้ได้ไงว่าเป็นเรือลำเดียวกัน แม่น้ำเจ้าพระยาเนี่ยมีเรือเป็นพันลำนะ คนให้ข้อมูลคุณต้องสืบค้นให้ได้ หรือตำรวจเขาจะไปสืบค้น ไม่ต้องกลัวหรอกสิ่งที่ปรากฏในจอในภาพต่างๆ ที่โซเชียลได้เนี่ยตำรวจก็ได้แล้วเหมือนกัน เขาเอามาวิเคราะห์มาดูความเชื่อมโยงต่างๆ ที่นี้พูดถึงเรื่องการฆาตกรรม การจะฆ่ากันมันต้องมีเหตุและมีแรงจูงใจ ฆ่าคนตายโดยเจตนาผมว่าไม่มีแน่ คน 3 คนจะวางแผนเอาแตงโมไปฆ่ามันมีมูลเหตุอะไรมั้ย แต่ที่ผิดแน่ๆ คุณประมาทแน่นอนที่ทำให้ตกน้ำ แต่จะตกวิธีใดมันต้องมีพยานหลักฐานที่ตำรวจ บางคนบอกว่าไปฉี่ หรืออาจยืนท้ายเรือ เรือกระตุกหน่อยก็ตกน้ำแล้ว ดังนั้นสังคมหรือโซเชียลต้องรอฟังผลสรุป มันต้องรอผลจากวิทยาศาตสตร์

หลายๆ คนสงสัยว่าตอนเกิดเหตุแรกๆ ไม่ได้มีการตรวจร่างกายของคนที่อยู่ในเรือ แบบนี้ถือว่าเป็นการทำงานที่ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่หรือไม่?
วิชัย : ไม่ใช่ครับ คือผมไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวนนะคนที่พูดว่าตำรวจไม่ตรวจเนี่ย ผมย้อนถามเลยว่ารู้ได้ไง คุณอาจมาเห็นตอนที่เขาตรวจครั้งที่ 2 ที่ 3 ก็ได้ การตรวจหาหลักฐานไม่จำเป็นต้องตรวจแค่ครั้งเดียว สมมติว่าตรวจครั้งนึงไปแล้ว วันหลังถ้าพบหลักฐานอื่นเขาก็ต้องมาหาตรวจครั้งที่ 2 ได้ เห็นมั้ยการที่จะเอาศพน้องแตงโมไปตรวจอีกรอบนึงก็ทำได้ไงเพราะการตรวจไม่จำเป็นต้องตรวจครั้งเดียวแล้วจบ

ถ้าเคสนี้ไม่ใช่น้องแตงโม ตำรวจจะเรียกไปตรวจร่างการตรวจแอลกอฮอล์ ที่โรงพักวันรุ่งขึ้นเลยมั้ย?
วิชัย : ไม่ครับก็ทำเหมือนกันหมด ตำรวจมีขั้นตอนการทำเหมือนกันหมด อย่างเช่นเวลาเกิดเหตุกลุ่มพวกนี้อาจไม่อยู่ ตำรวจก็ต้องเรียกแล้ว วันแรกตำรวจก็ยังไม่รู้ว่าใครอยู่บ้าง ตำรวจเขาก็ต้องหาหลักฐาน ทั้งภาพทั้งวงจรปิด ให้ยืนยันว่ามีคนอยู่ในเรือกี่คน พอรู้แล้วเขาก็จะเรียก เห็นมั้ยทุกคดีที่มีทนาย ทนายจะบอกว่าอย่าเพิ่งไปพบตำรวจนะเขาต้องมาซักซ้อมเองอีก มันเป็นเรื่องปกติ เป็นสิทธิของเขาที่เวลามีเรื่องเขาจะไปให้การกับตำรวจเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าตำรวจออกหมายแล้วแล้วไม่มาคุณผิดหมายแล้วคุณจะถูกดำเนินคดี ตรงนี้ผมให้มองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ

ตอนนี้คนเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากให้ตำรวจทำแล้ว อยากส่งไปให้ DSI คิดว่ายังไง?
วิชัย : ผมว่าเราต้องมาดูว่าตำรวจบกพร่องอะไรมั้ย อย่าไปคิดว่าฉันไม่ชอบตำรวจ ผมเห็นคดีต่างๆ ที่ส่งไปไม่เห็นสอบอะไรเพิ่มเติมเลย ก็เอาของตำรวจไปสรุปทั้งนั้น ความรู้ความสามารถในการสืบสวนสอบสวนยังไงก็สู้ตำรวจไม่ได้ แม้แต่อัยการเขาก็ต้องรอผลของตำรวจ

ที่ท่านพูดว่าตำรวจมีความสามารถในการสืบสวนสอบสวนเพราะท่านเป็นตำรวจหรือเปล่า?
วิชัย : ไม่ใช่ กฎหมายกำหนด คือการสืบสวนสอบสวนตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. ต่างๆ เวลามีเรื่องอะไรต่างๆทางอาญาตำรวจมีอำนาจในการสอบสวนยกเว้นบางคดีที่กฎหมายกำหนด ยกเว้นฝ่ายปกครอง แต่ส่วนมากทุกคดีจะเป็นตำรวจ ลองเอาเปอร์เซ็นต์มาเทียบว่าปีนึงคดีเป็นแสนๆ คนคนติดคุกในเรือนจำเป็นแสนๆ คน ทำไมคุณไม่พูด คุณไม่ไว้ใจตำรวจDSI เองหรือหน่วยงานอื่นก็เอาเจ้าหน้าที่ของตำรวจไปอยู่ทั้งนั้น การสอบสวนก็เหมือนกัน

ทำไมตำรวจถึงไม่ออกมาพูดถึงความคืบหน้าของคดีให้กระจ่าง?
วิชัย : ถ้าเป็นงานคดีแล้ว ตำรวจไม่สามารถเอาเนื้อความในสำนวนคดีมาเปิดเผยได้ เพราะมันผิดระเบียบมันผิดกฎหมาย เพราะคดีนั้นมันต้องมีการต่อสู้ไปยันศาล ไปยันอัยการอีก ถ้าเอามาเปิดเผยมันจะเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละฝ่ายอีก แต่ตำรวจสามารถแถลงขั้นตอนของการทำงานได้ อย่างเช่นได้สอบสวนพยานไปแล้ว 80 ปาก แล้วก็ไม่บอกด้วยนะว่าเป็นใครบ้าง เพราะถ้าบอกเดี๋ยวคุณก็ไปล่อเขาหรือเปล่า และเขาจะไม่บอกเนื้อความเพราะเป็นความลับทางคดี

หลายคนกลัวว่า 5 คนนี้รวย และรู้จักตำรวจชั้นผู้ใหญ่ด้วย เป็นไปได้มั้ยที่เขาจะขอความช่วยเหลือ?
วิชัย : ผมถามว่ามีผู้เกี่ยวข้องคนกลุ่มนี้ตำรวจเขาเกรงใจหรือให้ความสำคัญมั้ย ผมว่าพนักงานสอบสวนชุดนี้และผบ.ตร.ชุดนี้เขาไม่ให้ความสำคัญหรอก คุณจะมาสั่งอะไรเขาได้ เต็มที่คุณโทรมาเขาก็ครับๆๆ ตำรวจชุดนี้กว่าจะได้มา กว่าจะได้พระราชทานยศเขาไม่ได้มาง่ายๆ เขาจะเอาศักดิ์ศรีมาช่วยคนบางคนซึ่งไม่ได้รู้จักกันมาเลยมันไม่ได้หรอก

แล้วเป็นไปได้มั้ยที่ผู้บัญชาการไม่รู้ แต่คนทำคดีรู้?
วิชัย : แล้วคนที่ทำคดีเขาจะกล้าขัดคำสั่งเหรอ แค่ ผบ.ตร.ถามว่าคุณทำอะไร ไม่ทำตามคำสั่งคุณก็แข้งขาสั่นไปแล้ว คือระบบการอุปถัมภ์มันมี ใครฝากมาก็ดูแลให้ แต่จะให้เปลี่ยนรูปสำนวนหรือพยานหลักฐานใครจะกล้า ไม่มีใครเขาจะเอาขาเข้าไปอยู่ในตาราง

มันมีข้อสงสัยเยอะเพราะบางคนพลิกคำให้การ ว่าไม่เมา ใครเป็นคนขับกันแน่ จนหลายคนอยากจะให้ทั้ง 5 คนเข้าเครื่องจับเท็จอันนี้สำคัญมั้ย?
วิชัย : คำให้การของผู้ต้องหาสามารถจะให้การอะไรก็ได้ แต่ถ้าให้การผิดหรือไม่ถูกคุณจะโดนดำเนินคดีในข้อหาให้การเท็จ ตำรวจสามารถที่จะเอาคำให้การของคุณมาเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เกิดเหตุหรือพยานแวดล้อมสามารถที่จะมาหักล้างกันได้ เมื่อคุณยังดันทุรังศาลก็จะไม่เชื่อคุณก็เป็นความผิดเอง การใช้เครื่องจับเท็จทำได้ แต่ศาลจะไม่ฟังนะ มันเป็นแค่เครื่องมือในการช่วยทำคดี เพราะมันมีปัจจัยหลายอย่างซึ่งผลออกมามันอาจไม่ตรงก็ได้ อย่างเช่นพนักงานโยนคำพูดที่เขาตอบไม่ได้ไป เหงื่อออกหัวใจเต้นแรงแล้วบอกว่าเขากระทำความผิดก็ไม่ได้ ถ้าเครื่องจับเท็จไปบวกกับหลักฐานอื่นที่น่าเชื่อถือได้ศาลอาจใช้ฟังเฉยๆ แต่จะไม่มีมาเขียนว่าได้จากเครื่องจับเท็จ

แล้วที่มีแพทย์ที่มีชื่อเสียงบางคนพูดว่าอาจตายที่น้ำตื้นหรือเปล่าเพราะว่าปอดมีโคลนเขาไม่ไว้ใจที่จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นคนพิสูจน์ มีความเห็นยังไงครับ?
วิชัย : คือความสงสัยสงสัยได้แต่เมื่อคุณเป็นแพทย์คุณต้องพูดว่าเป็นอย่างนี้ได้ และไม่เป็นอย่างนี้ได้ ไม่ใช่พูดเป็นปลายเปิดให้สังคมไปเล่นงานคนบางคน ผมถามว่าคุณเอาหลักตัวไหนมายืนยันว่านี่เป็นการทำร้าย เพราะถ้าเกิดผมเป็นแพทย์คนนั้นถ้าคุณบอกว่าหน้าบวมโดนทำร้าย คุณก็น่าจะรู้ว่าตรงที่โดนน้ำมันจะเน่าสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่าแผลถูกกระทำคุณต้องไปผ่า ทำไมคุณไม่พูด นี่คุณพูดหน้าช้ำผิดปกติต้องเป็นการทำร้าย คุณจบแพทย์ยังไงเนี่ยทำไมคุณไม่พูดว่าถ้าจะพิสูจน์ว่าถูกทำร้ายต้องทำ 1 2 3 แล้วคุณก็พูดว่าต้องฟังผลของนิติเวช ถ้าคุณพูดแบบนี้สังคมมันก็เข้ารอยไง พูดปลายเปิด ไว้เอาเพื่อคุณจะดัง เอาเพื่อเป็นกระแส บางคนไม่ได้มีความรู้ทางนิติเวชนะ มีความรู้แค่ผ่าศพเฉยๆ ไม่มีสิทธิที่จะวิเคราะห์สมมติว่าศพโดนยิง 3 รู หมอผ่าพิสูจน์จะบอกว่าศพโดนยิงเท่านี้ๆ แต่นิติเวชเขาจะบอกเลย ว่ายิงตรงนี้ทะลุไป 3 องศา ยิงตรงนี้เพราะแผลเล็กกว่าไปเปิดตรงนี้ แต่คนที่พูดบางทีจบแค่ผ่าศพผ่าเฉยๆ

มันจะเห็นอะไรเพิ่มเติมมั้ยครับกับการชันสูตรอีกรอบนึง?
วิชัย : ทุกอย่างการผ่าครั้งแรกเขาอาจทำครบแล้ว เวลาผ่าใหม่เขาอาจเจอ บางอันอาจไม่เจอ บางอันอาจยืนยันได้ว่าที่เจอมันเป็นอะไร อาจเกี่ยวข้องคดีหรือไม่ ผมว่าดีนะจะได้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบอีกรอบ

แล้วถ้าผลมันแตกต่างจะทำให้ความน่าเชื่อถือของสำนักงานตรวจสอบน้อยลงมั้ย?
วิชัย : คนที่เกี่ยวข้องก็ต้องเสียหายไป อย่าไปด่าที่องค์กรตำรวจ จะเสียมันก็ต้องเสียที่คน องค์กรเขาบอกเลยจะต้องทำแบบนั้นกฎหมายก็มี แต่สิ่งที่ไม่ทำตามนั้นคือคนนะ ดังนั้นถ้ามันมีบกพร่องพนักงานสอบสวนหรือผู้คุมสำนวนจะต้องรับผิดชอบไม่ใช่สำนักงานตำรวจนะ เพราะฉะนั้นความเชื่อและศรัทธามันก็หมดไปด้วยเพราะว่าคนทำให้องค์กรเสียหาย บางทีเราก็เสื่อมศรัทธาในองค์กรเราเหมือนกัน

ให้คะแนนตำรวจ ณ ปัจจุบันนี้กี่เปอร์เซ็นต์?
+วิชัย : ความตั้งใจของคดีนี้ผมให้ 100 นะ แต่สิ่งที่ไม่ให้ 100 ได้คือเรื่องการทำยังไงให้ประชาชนเข้าใจ ตรงนี้ตำรวจยังทำน้อยเกินไป มันทำให้ประชาชนสงสัย การสอบสวนคดีเขามีหลักว่าต้องรวดเร็ว รัดกุม รอบคอบ และยุติธรรม ถ้าตำรวจยึดแบบนี้สังคมด่าว่าไม่ได้ แสดงว่าที่ประชาชนด่าว่ามันต้องขาดข้อใดข้อหนึ่ง อาจเพราะคุณไม่รวดเร็ว คนอาจมองว่าตรงนั้นทำไมไม่ทำ เพราะไม่รัดกุมไง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ