ผมคือประธานบริษัท! เทรนด์ฮิตจีน "ละครสั้นหนึ่งนาที" เติบโตสู่ตลาดโลก ตามรอย TikTok

Home » ผมคือประธานบริษัท! เทรนด์ฮิตจีน "ละครสั้นหนึ่งนาที" เติบโตสู่ตลาดโลก ตามรอย TikTok
ผมคือประธานบริษัท! เทรนด์ฮิตจีน "ละครสั้นหนึ่งนาที" เติบโตสู่ตลาดโลก ตามรอย TikTok

จับตา “ละครสั้นหนึ่งนาที” เทรนด์ฮิตจากจีน เติบโตแซงหน้าบ็อกซ์ออฟฟิศ ขยายไปเอเชีย-สหรัฐฯ หวังตามรอย TikTok

แวดวงธุรกิจจีนกำลังให้ความสนใจในธุรกิจผลิตละครชุดขนาดสั้น 60-90 วินาที บริการผู้ชมบนโลกออนไลน์ ที่ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงสิบปี ตามการรายงานของบลูมเบิร์ก

สิ่งที่ทำให้ละครขนาดสั้นลักษณะนี้แตกต่างไปจากคลิปวิดีโอสั้นทั่วไปที่เห็นตามโซเชียลมีเดียติ๊กตอก คือคุณภาพการผลิตระดับมืออาชีพ มีเส้นเรื่องที่ชัดเจนและแบ่งย่อยหลายตอน ไม่เพียงเท่านั้นยังมีฉากจบที่ทำให้ผู้ชมรอติดตามตอนต่อไปแทบไม่ไหว และมีช่องทางเผยแพร่เป็นกิจลักษณะ

ตัวอย่างของเนื้อหาชนิดนี้ คือ The Double LIfe of My Billionaire Husband (ชีวิตคู่ของสามีมหาเศรษฐีของฉัน) ละครชุด 49 ตอน ตอนละ 100 วินาที ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2023 ว่าด้วยชีวิตหญิงสาวที่ถูกบังคับแต่งงานเพื่อหาเงินมารักษาแม่

นาฏกรรมขนาดสั้นนี้ปรากฏตัวบนโลกออนไลน์เมื่อปี 2018 ไม่นานนักหลังแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ติ๊กตอกเปิดตัว โดยผู้ผลิตทั้ง Kuaishou Techonology และ Tencent Holding สามารถสร้างฐานผู้ชมหลักร้อยล้านได้จากคนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมไถดูเนื้อหาบนหน้าจอโทรศัพท์

ความนิยมในตลาดละครสั้น ทำให้ผู้เล่นในวงการโทรทัศน์และระบบสตรีมมิ่งออนไลน์รายใหญ่ของจีนอย่าง Tencent (เทนเซ็นต์) และ iQiyi (อ้ายฉีอี้) กระโดดลงมาทำละครสั้น เอาใจผู้ชมทั้งในและนอกประเทศในเวลาต่อมา

เติบโตแซงหน้าบ็อกซ์ออฟฟิศภาพยนตร์จีน

เมื่อปี 2024 อุตสาหกรรมละครสั้นกวาดรายได้ไป 6.9 พันล้านดอลลาร์ เติบโตขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้ 35% อ้างอิงจากสมาคมอุตสาหกรรมที่รัฐบาลจีนสนับสนุน แซงหน้าตลาดบ็อกซ์ออฟฟิศภาพยนตร์จีน สืบเนื่องจากกำลังซื้อของชาวเน็ตจีนจำนวนหลายพันล้านคน ที่ครึ่งหนึ่งเป็นผู้ชมละครสั้น และหนึ่งในสามเป็นแฟนชมที่เสพเนื้อหาลักษณะนี้ทุกวัน

โจอี้ เจีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัท ReelShort ผู้เผยแพร่ The Double LIfe of My Billionaire Husband มองว่าละครสั้นกำลังกลายเป็น “รูปแบบความบันเทิงหลัก และมีศักยภาพที่จะแซงหน้าตลาดภาพยนตร์ดั้งเดิมในอีกไม่กี่ปี”

รีฟส์ เติ้ง ผู้ก่อตั้งบริษัทละครสั้น Luckyshort มองละครสั้นในฐานะการมอบความสุขให้ผู้ชมได้บ่อยขึ้นในราคาที่ถูกลง และปัจจุบัน บริษัทในจีนมีความพร้อมที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมนี้ สะท้อนจากยอดผลิตปีละ 5,000-8,000 เรื่องต่อปี สูงกว่าจำนวนที่ทั้งโลกผลิตรวมกันถึง 10 เท่า

ในปี 2024 มีคำขอจดจัดตั้งธุรกิจผลิตละครสั้นในจีนหลายพันบริษัท อ้างอิงจากรายงานของอุตสาหกรรม ซึ่งแม้ความนิยมในตลาดจะทำให้ต้นทุนผลิตสูงขึ้นเป็นหลักหมื่นดอลลาร์ต่อเรื่อง แต่ก็ยังถือว่าถูกกว่างบผลิตละครแบบดั้งเดิม ขณะที่ผลตอบแทนยังสามารถไปถึงหลักล้านดอลลาร์ทั้งจากค่าโฆษณาและการเก็บค่าเข้าชมตอนที่เหลือ หลังให้ผู้ชมชิมลางรับชมตอนแรก ๆ แบบไม่คิดเงิน

นอกจากตลาดในประเทศ ผู้เล่นรายใหญ่หลายรายต่างกำลังมองหาโอกาสในตลาดต่างประเทศ ทั้งเพื่อขยายธุรกิจและหลบหลีกการเซ็นเซอร์เนื้อหาจากรัฐบาลจีน ดังที่เคยมีเหตุเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ที่รัฐบาลปักกิ่งออกแนวทางปฏิบัติพยายามไม่ให้ละครสั้นมีเนื้อหาเชิดชูแนวคิดวัตถุนิยม และสนับสนุนการแต่งงานกับคนร่ำรวย

รูปการณ์ที่สะท้อนการมองหาตลาด สามารถเห็นได้จากการที่ ShortMax หนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดกำลังขยายไปที่ประเทศอื่นในเอเชียด้วยเนื้อหาที่มีหลากหลายภาษา ขณะที่แพลตฟอร์ม Mega Matrix ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ก็หวังเจาะตลาดในตะวันออกกลาง

นอกจากความนิยมในจีนแล้ว แพลตฟอร์ม Tving ของเกาหลีใต้ Jiocinema ของอินเดีย และ Vidio ของอินโดนีเซีย ต่างก็กำลังเตรียมปล่อยเนื้อหาประเภทละครสั้นเช่นกัน

เหล่าผู้บริหารในแวดวงอุตสาหกรรมนี้ ประมาณการว่า ธุรกิจละครสั้นนอกประเทศจีน มีมูลค่าการเติบโตในปีที่แล้วราว 2 พันล้านดอลลาร์

เจาะตลาดสหรัฐฯ หวังตามรอย ‘ติ๊กตอก’

อีกความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองในเรื่องนี้ คือการที่ผู้ผลิตจากจีนหลายรายพยายามตามรอยความสำเร็จของติ๊กตอก ด้วยการร่วมผลิตงานกับสตูดิโอในสหรัฐฯ ท่ามกลางบริบทความระแวงระวังจากรัฐบาลวอชิงตันในประเด็นความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน และความมั่นคงแห่งชาติดังที่ติ๊กตอกกำลังเผชิญอยู่

แนวทางการตีตลาดอเมริกันนั้น มีทั้งการนำละครจีนมาปรับใหม่ หานักแสดงอเมริกันมาร่วมแสดงในหลายบทบาท รวมถึงนำละครบางตอนไปเผยแพร่ในยูทูบ อินสตาแกรม หรือติ๊กตอก ก่อนชวนให้มาชมต่อที่แพลตฟอร์มของตน

ปัจจุบัน ReelShort ที่ดำเนินการโดยบริษัท Crazy Maple Studio ในแคลิฟอร์เนียมีผู้ติดตามรายเดือนมากกว่า 10 ล้านบัญชี นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2022 และกำลังมองหาโอกาสขยายตลาดในภูมิภาคละตินอเมริกา ยุโรปและเอเชียแปซิฟิก ด้วยเนื้อหาที่มีตัวเลือกภาษาถึง 16 ภาษา

บลูมเบิร์กทิ้งท้ายในรายงานว่า แม้ธุรกิจละครสั้นเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งมูลค่าและฐานแฟนคลับ แต่เหล่าผู้บริหารในวงการยังคงกังวลถึงอนาคตในระยะยาว สืบเนื่องจากธรรมชาติของตลาดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีน ที่เม็ดเงินลงทุนจะไหลไปตามกระแสอย่างรวดเร็วแบบไฟไหม้ฟาง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ