ปูนขาว 400 กก. โรย 5 ซากช้างป่า ตกหลุมยุบตาย เฝ้าระวังลักซากเอาไปหาประโยชน์ส่วนตัว เผยรอยพยายามปีนขึ้น ยังเจออีกหลายหลุมใกล้ๆ กัน
จากกรณีช้างป่า 5 ตัว ตกหลุมยุบตายจนเหลือแต่โครงกระดูก เหตุเกิดบริเวณป่าเหมืองสองท่อ หมู่ 7 บ้านชะอี้ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพระฤๅษี และป่าเขาบ่อแร่แปลงที่ 1 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 6 พ.ค.65 นายประทีป เอกฉันท์ ผอ.ศูนย์ป่าไม้กาญจนบุรี นายพิเชษฐ ชัยสวัสดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู นายวิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค หน.เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน (กรมป่าไม้) ร.ต.อ.มานะ สุทธิบุตร รอง สว.กก.5 บก.ปทศ. นายเชน ศรีเสมอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านชะอี้ ต.ชะแล เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ กจ.4 (กรมป่าไม้) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจธิพุเย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์
ร่วมกันเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมนำปูนขาว 400 กิโลกรัม เข้าไปโรยซากช้างป่าที่ในหลุมยุบกว้างประมาณ 10 เมตร ลึกประมาณ 2-3 เมตร เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่จะได้นำปูนขายมาโรยเพิ่มเติม พร้อมกับเฝ้าระวังที่จุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเข้ามาลักนำซากช้างป่าทั้ง 5 ตัว เพื่อนำไปหาผลประโยชน์ส่วนตัวอีกด้วย
นายพิเชษฐ เปิดเผยว่า จากสภาพของซากช้างป่าที่ตายทั้ง 5 ตัว คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 2-3 เดือน จากซากที่เน่าเปื่อยทำให้ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ หนังและเนื้อบางส่วนหลุดล่อนออกจนมองเห็นแต่โครงกระดูก ซึ่งภายในบ่อที่ช้างป่าตายเป็นโคลนที่มีน้ำขัง และพบร่องรอยการตะเกียกตะกายของช้างเพื่อขึ้นมาบนฝั่ง แต่ก็ไม่สามารถขึ้นมาได้จนหมดแรงตาย
จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบว่า มีหลุมยุบตัวอีกหลายหลุม ซึ่งแต่ละหลุมมีความลึกประมาณ 2-3 เมตร คณะเจ้าหน้าที่คาดว่าขณะที่ช้างป่าทั้ง 5 ตัว รวมตัวยืนอยู่บนพื้นดิน แล้วจู่ๆ ดินก็ยุบลงมาอย่างกะทันหัน ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกลงมาทำให้เกิดมีสภาพเป็นดินโครนและลื่น ทำให้ช้างป่าขึ้นมาไม่ได้ และตายในที่สุด ขณะที่จุดเกิดเหตุนั้นอยู่ห่างไกลจากชุมชนมากถึง 7 กิโลเมตร จึงไม่มีผู้ใดพบเหตุการณ์