ปู แบล็คเฮด หัวใจชมพูอีกครั้ง หลัง แจนจัง เข้ามาช่วยเติมเต็มชีวิต

ปู แบล็คเฮด / หัวใจพองโตกลับมาสีชมพูอีกครั้ง สำหรับนักร้องดัง ‘ปู แบล็คเฮด’ หรือ ‘อานนท์ สายแสงจันทร์’ ที่ก่อนหน้านี้มีรูปร่วมทริปกับ ‘แจนจัง เจตสุตา เครือแตง’ อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ป BNK48 ซึ่งต่อมาไอดอลสาวได้ออกมาเผยว่า กำลังคบหากับ ปู แบล็คเฮด จริง และยังบอกอีกว่าเป็นคนเดินหน้าจีบฝ่ายชายเองอีกด้วย

ล่าสุดที่ ห้องกมลทิพย์ บอลรูม โรงแรม เดอะสุโกศล กรุงเทพมหานคร ภายในงานประกาศผลรางวัลสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ครั้งที่ 12 (Thai Film Director Awards 2023) ปู แบล็คเฮด เดินทางมาร่วมงาน พร้อมเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงความสัมพันธ์กับสาว แจนจัง ว่าเป็นคนเข้ามาเติมเต็มพลังทำให้พร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าอีกครั้ง

ตอนนี้หัวใจกลับมาสีชมพู? “จะพูดอย่างนั้นก็ได้ เหมือนมีคนมาเติมเต็มให้ชีวิตมันขับเคลื่อนต่อไปได้ (น้องบอกว่าพี่เป็นแฟนเขา แล้วน้องเขาเป็นแฟนพี่หรือยัง?) “เรียกว่าเป็นแฟนกันแล้วก็ได้ จริงๆ อยู่ในช่วงที่เราทั้งสองคนไม่มีใคร จะว่าพร้อมก็ได้ น้องเขาก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว”

คลิกกันตอนไหน? “เป็นคน 2 คนที่ว่าง ผมอยู่บ้านผมว่างมาก และจมอยู่กับเรื่องชีวิตที่ผ่านมา ทีนี้ก็ไม่ได้มีโอกาสไปพบเจอใครด้วย จนวันหนึ่งไปเจอกันในกองถ่าย ก็พูดคุยกัน ค่อยๆ เปิดโอกาสได้พูดคุยกันมากกว่า”

คุยกันอยู่นานไหม กว่าจะเปิดใจให้น้องเข้ามาเติมเต็ม? “ไม่ใช่แค่ให้น้องมาเติมเต็มเรื่องนั้นอย่างเดียว น้องก็ต้องยอมรับได้ว่าพี่มีความทรงจำอยู่ แล้วน้องเขาน่ารักในการที่เขายอมรับ เขายินดีที่จะเข้ามาตรงนี้ เขายังเห็นเรามอบดอกไม้ให้กับนุ๊กซี่อยู่ตลอดทุกอาทิตย์ แล้วแจนเขาก็เข้าใจ เขาก็มีเอาดอกไม้มาให้นุ๊กซี่ด้วย”

ต้องทบทวนเยอะขนาดไหน เพราะผู้หญิงบางคนรับไม่ได้เรื่องแบบนี้? “ใช่ ผมก็ให้กำลังใจเขารู้เลยว่าเป็นแบบนี้ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่มีใจให้เขาหรือเราค้างคา แต่สิ่งที่เราปฏิบัติอยู่ก็เหมือนไหว้บรรพบุรุษนะ อันนี้คือความทรงจำที่ดีของเรา ก็เหมือนเราวางดอกไม้ให้คุณพ่อเป็นแบบนี้มากกว่า เป็นความทรงจำที่ดีมากกว่า ที่น้องเข้าใจก็ถือว่าน้องโชคดีไป แต่ถ้าน้องเขาไม่เข้าใจเราก็ไม่ได้บังคับอะไรเขา แต่บังเอิญโชคดีแจนเขาเข้าใจว่าเรามีใจให้เขา แต่เรื่องราวความทรงจำก็ยังค้างอยู่ตรงนี้ ซึ่งวันหนึ่งก็อาจจะลดเรื่องราวที่ทำให้เขารู้สึกแย่ลง เดี๋ยวค่อยๆ ขอเวลานิดหนึ่งครับ”

คุยกันอย่างละเอียดแล้ว? “ใช่ครับ บางวันเขาเป็นคนนั่งทำงานแล้วคุยกับรูปภาพนุ๊กซี่เองเลย ขอกำลังใจทำงาน น่ารักดีครับ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมโอเค ผมก็มีกำลังใจขึ้น และถ้านุ๊กซี่มองลงมาก็คงจะดีใจครับ”

ตอนนั้นคิดไว้ไหมว่าจะได้เริ่มต้นใหม่? “เราไม่มีความมั่นใจเลย เรื่องราวมันเพิ่งผ่านมาไม่นาน ความมั่นใจแทบจะไม่มีเลย จะเดินไปหาใคร คุยกับใครยังไม่มีใจตรงนั้นเลย ผ่านมา 1 ปีถึงจะดูไม่นาน แต่มันนานนะสำหรับคนจม 1 ชั่วโมงอย่างกับ 1 ปีเลย มันก็วนเวียนอยู่อย่างนั้น เราก็ออกมายาก พอออกมากก็ไม่มีความมั่นใจเลย ว่าจะเดินเข้าไปหาใครไม่มีทางเลยด้วยซ้ำ แต่บังเอิญได้ไปเล่นซีรีส์ด้วยกัน ก็เลยได้พูดคุยกัน ได้แลกเปลี่ยนกันเยอะครับ”

น้องบอกไม่รู้จักพี่เลย? “ทั้งคู่ต่างไม่รู้จัก (หัวเราะ) ผมเองก็อายุเยอะเกินกว่าที่จะไปรู้ว่า ภายในของ BNK48 ว่ามีใครบ้าง ผมก็ไม่ทราบเลย (รู้ไหมอะไรที่ทำให้เขาชื่นชมเรา?) “เขาบอกว่าให้ผมหันข้างหน่อยเขาชอบ (หันขวา) ไม่มีเหตุผลอื่นเลยใช่ไหม (หัวเราะ) ก็เลยอยากรู้จักและทำการพูดคุยกันครับ พอคุยกันแล้วเราค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่น้องคงชอบอะไรแบบนี้”

กับความรักครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง? “มันทำให้เราเหมือนเติมพลังงานอยากขับเคลื่อน ตอนที่นุ๊กอยู่เวลาผมมีงานอะไร ทำอะไร ผมจะมีเขาเป็นที่ปรึกษา เป็นคนคอยผลักดันคอยให้กำลังใจ เป็นที่ปรึกษาที่ดีเรื่องการแต่งตัว หรือให้กำลังใจในเรื่องราวของเพลง สมมติเขียนเพลงก็อยากถาม เราต้องมีที่พึ่งนะ อันนี้ก็เช่นเดียวกันน้องแจนเขาก็มีบทบาทคล้ายๆ กันครับ”

ช่วงวัยมีปัญหาไหม? “วัยเป็นเรื่องที่เราเลือกไม่ได้นะ เพราะเราก็ไม่ได้รู้ว่าเขาอายุเท่าไหร่ในตอนแรก เราก็ไม่ได้เจอใครพอดี พอพูดคุยกันก็คลิกได้เร็ว (อีกมุมหนึ่งก็ว่า เริ่มต้นใหม่เร็วจัง?) “ก็มีครับ แต่ส่วนใหญ่จะเข้าใจและยินดีกับการที่ได้เริ่มต้นใหม่ ได้เดินทางใหม่มากกว่า ผมเลยไม่ได้คิดเอาเรื่องที่เป็นผลลบ หรือแง่ลบกับชีวิต เพราะยังไงชีวิตที่ต้องเดินต่อก็ต้องใช้พลังงานพลังใจ ถ้าเอาพลังเหล่านั้นมาก็จะโดนลบไปด้วย”

เป้าหมายตอนนี้มองไว้ยังไงบ้าง? “เดินจูงมือกันไปเรื่อยๆ ก่อนครับ ยังไม่มีอะไรมากมาย แต่ ณ ตอนนี้ถ้าน้องอยากมีผลงานเพลง เราพร้อมทำให้ ใช้ค่ายเรานี่แหละ ก็ลงทุนเองครับ”