ครั้งแรกกับการออกมาให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจหมดเปลือก ของ ปิ่น-เก็จมณี พิชัยรณรงค์สงคราม นักแสดงชื่อดัง สาวดีกรีคุณแม่ลูก 3 หลังตัดสินใจปิดฉากความรักในฐานะสามีภรรยาเกือบ 30 ปี กับอดีตสามี เจ-เจตริน วรรธนะสิน
โดยเจ้าตัวได้เล่าถึงรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงอัปเดตความรู้สึก ณ ปัจจุบัน ในวันที่ได้กลับมาใช้คำว่า “นางสาว” ครบ 1 ปีเต็ม กับ วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา ในรายการ WOODY FM
อะไรคือสิ่งที่คนเข้าใจผิดในช่วงที่ผ่านมา ?
เรื่องเข้าใจผิดเหรอ เอ่อ…เอาจริงๆ นะ ปิ่นไม่รู้ว่าเข้าใจผิดเรื่องอะไร เพราะปิ่นรับแต่พลังบวก ปิ่นก็เลยไม่ทราบว่าเขาเข้าใจอะไรผิดกันบ้าง และนี่ก็ผ่านระยะเวลามา ครบ 1 ปีแล้ว เป็นนางสาวครบ 1 ปีพอดี เมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมา (ยิ้ม)
คบหาดูใจกันยาวนานแค่ไหนสำหรับคู่เรา ?
ตั้งแต่ปี 1995 ค่ะ เป็นแฟนกันมานานมาก
ภาพวันนี้ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น ?
ไม่คิดเลย ไม่เคยคิดเลย เพราะปิ่นเป็นคนที่มีความฝัน ว่าเราจะต้องมีครอบครัวที่มีความสุข และด้วยความที่ครอบครัวของปิ่นคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ปิ่นก็เลยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างครอบครัวของตัวเองให้เพอร์เฟค อบอุ่น และไม่ว่าเราต้องเสียสละอะไรเราจะทำให้ถึงที่สุดตลอดชีวิต ซึ่งระหว่างทางมันก็ขรุขระนะ มันก็ไม่ได้สวยงามเหมือนทุ่งลาเวนเดอร์ แต่ด้วยความที่ปิ่นเป็นคนค่อนข้างหาเรื่องมีความสุขให้กับตัวเองทุกวัน มันเลยทำให้ปิ่นผ่านมาได้เรื่อยๆ
จุดที่ต้องตัดสินใจว่าพอแล้ว ?
มันน่าจะไม่ใช่แค่วันนั้น แต่มันน่าจะเป็นอะไรที่มาเรื่อยๆ มาเรื่อยๆ ค่อยๆ มา จนถึงวันสุดท้ายที่เราตัดสินใจด้วยสติ ด้วยเหตุผล และหลายๆ อย่าง ว่าเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า เป็นแค่พ่อกับแม่ของลูก
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทันทีเลยไหม ?
ก็ใช้เวลาเป็นปีนะคะ เพราะมันก็มีหลายครั้งที่เราคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เคยที่จะยอมแยกกัน และทุกครั้งเราก็กลับมาดีขึ้น แต่ครั้งสุดท้ายที่คุยกันแล้วเขาบอกว่า ‘โอเค’ ก็ตกใจเหมือนกันนะตะ เหวอดี (หัวเราะ)
ความรู้สึกในช่วงหลังๆ ที่อยู่ด้วยกันเป็นยังไง ?
มันเหมือนการใช้ชีวิตต่างกันเยอะมาก จากที่เราเคยสนุกด้วยกันตั้งแต่เด็ก เราบู๊ล้างผลาญด้วยกัน เราเล่นกีฬาเดียวกัน ไปไหนไปกัน แต่ตอนหลังอาจจะเพราะสุขภาพของปิ่น ที่ปิ่นต้องใส่สะโพกเทียม และมันทำให้ปิ่นซนด้วยไม่ได้ เขาก็เลยต้องไปสนุกของเขา หรือเวลาทำงาน เราก็ทำไม่ตรงกัน เขาทำงานกลางคืน ส่วนปิ่นก็เข้านอน มันเลยทำให้เราค่อยๆ ห่าง
ร้องไห้เยอะ ?
จะบอกว่าไม่เยอะก็ไม่ได้ เพราะมันก็เป็นอารมณ์แล้วแต่วัน วันนี้แฮปปี้ อีกวันร้องไห้บ้าคลั่ง
หลายคู่เลือกที่จะไม่แยก แต่จะอยู่สู้ต่อเพื่อลูก ?
แน่นอนค่ะสิ่งแรกที่คิดถึงคือลูก และเราคุยกันมาโดยตลอด ลูกรู้ทุกอย่างตลอดเวลา เราเป็นเหมือนเพื่อนกัน ทุกคนดูแลปิ่นอย่างดี คือเขากลายเป็นผู้ใหญ่กันไปเลย
จับเข่าคุยกับลูกพร้อมกัน ?
มีคุยสามคนบ้าง แยกคุยบ้าง คือมันจะเป็นอะไรที่เราคุยกันเรื่อยๆ อยู่แล้ว ซึ่งลูกก็เห็นมาทุกอย่าง และก็เคยมีตอนที่เขาบอกว่า ‘เขายังไม่พร้อม ขอเข้ามหาวิทยาลัยก่อนได้ไหม’ แต่เขาไม่ได้พูดกับปิ่นโดนตรงนะ เขาพูดกับคนอื่น แล้วคนอื่นก็มาเล่าให้ฟังอีกที คือบางคนก็พร้อม บางคนก็ยังไม่พร้อม เพราะด้วยความรู้สึกต่างๆ ความรับผิดชอบต่างๆ ของเขา เขาอยากมีสมาธิกับงาน กับการเรียนก่อน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่เขาพร้อมเราก็โอเค ซึ่งก็รอมานานค่ะ รอมาหลายปี
แสดงว่าไม่ได้เกิดขึ้นแบบฟ้าผ่า ?
ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นเลย แค่ปิ่นไม่ชอบประกาศให้โลกรู้มากกว่า
ตอนนี้เป็นห่วงลูกคนไหนมากที่สุด ?
ห่วงตามวัย ตามคน หรือตามเรื่องมากกว่า เพราะกระแสมันคนละแบบ แต่ด้วยความที่เราสนิทกันมากจริงๆ ดังนั้นเราจึงคุยกันตลอดอยู่แล้ว
ตกลงเรื่องการเลี้ยงดูยังไง ?
อยู่ด้วยกัน และก็สลับไปมา ยังเป็นเพื่อนกัน (ยิ้ม)
อะไรคือเรื่องดีๆ ที่เราได้เจอจากเหตุการณ์นี้ ?
ปิ่นเพิ่งรู้ว่ามีคนที่รักปิ่นเยอะมากขนาดนี้ และคนที่หวังดีประสงค์ร้ายก็มีด้วยเหมือนกัน ดังนั้นปิ่นก็เลยเลือกที่จะลดขนาดวงกลมให้มันเล็กลง และไม่พูดอะไรกับใครเยอะ เพราะคำพูดปากต่อปากมันจะอาจจะทำให้ความเปลี่ยน ซึ่งมันไม่สนุก อีกอย่างคือปิ่นรักลูกมาก ดังนั้นทุกอย่างที่จะออกจากปากปิ่น ปิ่นแคร์ลูกที่สุด
มีโมเมนต์ที่เรากับลูกกอกกันร้องไห้บ้างไหม ?
มี ช่วงนั้นๆ ต้องขอบคุณพระเจ้าเลยค่ะ แค่มีเขาสามคนชีวิตปิ่นก็เต็มแล้ว
สถานะเปลี่ยนความรู้สึกเปลี่ยน ?
แรกๆ ก็อาจจะแปลกนิดหนึ่ง อาจจะคะเขิน แต่ตอนหลังก็ชิน ก็ดี