แม้พี่ศรี ศรีสุรรณ จรรยา จะถูกปิดตำนานนักร้องมากกว่า 10 ปี แต่ก็ยังมีนักร้องอีกหลายคนที่ยังเดินหน้าร้องเรียนต่อเนื่อง ซึ่งคนที่เป็นที่รู้จักมีทั้งหมดด้วยกัน 5 คน
คนแรก นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในห้วงที่ผ่านมาเขาเดินสายร้องเรียนคนดังการเมืองมาแล้วหลายต่อหลายราย โดย 1 ก.พ.67 ที่ผ่านมานั้นเขายื่น กกต. ขอยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิ กรรมการบริหาร หลังศาลรัฐธรรมนูญ ชี้หาเสียง แก้ไข ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ทั้งนี้ก็คงต้องมาจับตาว่าเขาจะออกมายื่นคำร้องเรียนพรรคการเมืองหรือคนดังการเมืองคนใดอีกหรือไม่
อีกทั้งเรืองไกรยังบอกว่าไม่หวั่นซ้ำรอยนักร้องเรียนคนดัง เพราะไม่เคยร้องเรียนมั่วซั่ว ยืนยัน ทำทุกอย่างตามหลักการจึงไม่ห่วงว่าจะต้องเผชิญปัญหาเหมือนนักร้องเรียนคนดัง พร้อมกันนั้นจากเหตุการณ์การตรวจสอบการกระทำของภาครัฐอันมิชอบหลายกรณี ทำให้เรืองไกรได้รับฉายาว่า แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ อีกด้วย
ขณะที่นักร้องคนที่ 2 อย่าง นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร ก็เดินหน้าร้องป.ป.ช.สอบจริยธรรม44ส.ส.ก้าวไกล ที่ร่วมเสนอชื่อแก้ไขกฎหมาย112 ซึ่งกรณีดังกล่าวเขาเคยยื่นคัดค้านในขณะที่มีการยื่นจดทะเบียนพรรคอนาคตใหม่เมื่อปี 2561 ไปแล้ว โดยขณะนั้น นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เนื่องจากคณะนิติราษฎร์มีแนวคิดจะแก้มาตรา 112 หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง รับจดทะเบียนพรรคการเมืองจะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยต่อสถาบันฯ ซึ่งเป็นจริงตามที่เขาเคยคัดค้านตั้งแต่เริ่มต้น โดยการแก้ไขมาตรา 112 เป็นมรดกตกทอดมาถึงพรรคก้าวไกลแล้วถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำที่ล้มล้างการปกครอง แถมเขายังบอกด้วยว่ายืนยันไม่ซ้ำรอย พี่ศรี เพราะเป็นนักการเมืองไม่ใช่นักร้องอาชีพ ไม่รีดไถใคร และมีสมบัติส่วนตัว 100 ล้าน
ทั้งนี้ วันที่ 10 ม.ค.67 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของนักร้องคนที่ 3 คือ นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมขอให้ดำเนินการ ทนายอานนท์,ไมค์และรุ้ง ไม่ทำตามที่ศาลสั่งไว้ ชี้ คำร้องไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 74 ขณะที่ก่อนหน้านี้ ณฐพร ก็เป็นอีก1คน ที่มักจะออกมายื่นคำร้องเรียนคนการเมืองอยู่เป็นประจำอีกด้วย
ต่อมาคนที่ 4 นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของอดีตพระพุทธะอิสระ ยื่น กกต. ส่งศาล รัฐธรรมนูญ พิจารณายุบ ก้าวไกล หลังฟันนโยบายหาเสียงแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง โดยสาเหตุที่ทำให้ธีรยุทธออกมายื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวหาพิธาและพรรคก้าวไกลใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ธีรยุทธบอกว่ายืนยันว่าไม่มีใบสั่งจากใคร และไม่ได้ทำเพราะอยากดัง แต่ทำในฐานะนักกฎหมายต้องทำหน้าที่ตามหลักการกฎหมาย ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงทางการเมือง ในช่วงที่พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและ
นักร้องคนที่ 5 นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือที่เรียกกันว่า ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ล่าสุดยื่นหนังสือ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ศรีสุวรรณ ไร้อาชีพ แต่ซื้อบ้านหรู เป็นนักร้องเรียนมากว่า 10 ปี ไม่มีอาชีพชัดเจน ไม่มีที่มารายได้เป็นหลักแหล่ง ซึ่งทนายอั๋น บอกว่า ผมท้าชนนายศรีสุวรรณมานานแล้ว เพราะพฤติกรรมแบบนี้มองว่ากระจอกกว่าที่คิด และผมขอประกาศว่านายศรีสุวรรณจะไม่กลับมากล้าร้องเรียนได้อีก ถ้ากลับมาจะกล้าหรือ ไม่อายหรือ
นอกเหนือจากนี้ยังมีนักร้องอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นหมอรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี,ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ก็ล้วนออกมาเปิดหน้าร้องเรียนไม่พักกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าภาครัฐและฝ่ายค้านต่างถูกจับตาอยู่รอบด้าน ดังนั้นก็คงต้องมาติดตามว่าใครจะเป็นรายต่อไปที่จะตกเป็นเป้าสายตานักร้องเรียนนำไปสู่การตรวจสอบหาความจริงต่อไป…