สมาคมกีฬาปันจีกสีลัตเอาแน่ ส่งจดหมายถึงสหพันธ์ปันจักสีลัตนานาขาติ ถึงการตัดสินที่ไม่ยุติธรรมของประธานผู้ตัดสินชาวสิงคโปร์ เชค อารูดิน ที่เข้าข้างลูกชาย จนปล้นเหรียญทองไปจากนักกีฬาไทย ยืนยันขอทำเพื่อให้กีฬาปันจักสีลัตขาวสะอาดกำจัดปลาเน่าออกจากวงการ
ความเคลื่อนไหวของทีม ปันจักสีลัตทีมชาติไทยในการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หลังจากได้ 2 ทองจาก ซอบรี เจ๊ะนิ, อับดุลการีม คูลี, อับดุลรอฮีม ซีเดะ ปันจักลีลาทีมชาย และ อาดีลัน เจ๊ะแมง ประเภทต่อสู้ คลาสดี ชาย (60-65 กก.) 2 เงิน จาก ปันจักลีลา เดี่ยว ชาย อิลยาส สาดารา และ ศรานนท์ กลมพันธ์ ประเภทต่อสู้ คลาสเจ ชาย (90-95 กก.) 4 ทองแดง จาก อับดุลการีม ยูโซ๊ะ – ไครูลมหาฎี ยูโซ๊ะ ปันจักลีลาคู่ ชาย, เจนจิรา หว้านเครือ ประเภทต่อสู้ คลาสอี หญิง (65-70 กก.), สุทัศน์ บุญชิต ประเภทต่อสู้ คลาสจี ชาย (75-80 กก.), ซาบีดี สาและ ประเภทต่อสู้ คลาส บี ชาย (59-55 กก.)
นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันรายการนี้ ถือว่าเกินเป้าหมาย เพราะเราทำได้ 2 ทอง 2 เงิน 4 ทองแดงเกินเป้าจากที่วางไว้ 1 ทอง ถือว่าเป็นความสำเร็จของสมาคมฯ เราได้เรียนรู้ถึงประสบการณ์การจัดแข่งขันซีเกมส์ ทุกๆ ชาติเห็นด้วยในเรื่องของกติกา การตัดสิน เราต้องทบทวนและต้องมีการปรับปรุงต่อไป
“รายการต่อไป ที่จะส่งนักกีฬาไปแข่งขันปันจักสีลัตชิงแชมป์โลกที่มาเลเซีย ซึ่งหวังว่า จะมีการแก้ไขและช่วยกันผลักดันกีฬาปันจักสีลัตได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ได้บรรจุแข่งในเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกต่อไป”
“ถ้าพูดถึงการตัดสิน เนื่องจากประธานกรรมการตัดสินเป็นชาวสิงคโปร์ เชค อารูดิน และลูกชาย เชค ฟาฮัน บิน เชค อารูดิน ก็มาลงแข่ง ทำให้มีการปรับเปลี่ยนกติกามีการเปลี่ยนกฏในวันแข่ง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เราจะส่งจดหมายเกี่ยวกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นแนวทางที่ต้องแก้ไขไปที่สหพันธ์ปันจักสีลัตนานาชาติ รวมทั้งทุกชาติในอาเซียนบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับทุกชาติ เราหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับวงการปันจักสีลัตซีเกมส์อีก”
“สำหรับผลการชิงเหรียญทอง เจ้าของต้นตำรับปันจักสีลัตอย่างอินโดนีเซียไม่ได้เหรียญทองแม้แต่เหรียญเดียว มีแต่สิงคโปร์และเวียดนามได้เหรียญทองมากที่สุดในซีเกมส์ครั้งนี้”
ส่วน นักรบ ทองแดง รองเลขาธิการและประธานพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การตัดสินของปันจักสีลัตไม่ได้ปฏิบัติตามกฏตามระเบียบของกีฬาเลย กีฬามีกฎมีระเบีบบที่ตั้งไว้ถูกต้อง ดีงาม รายการนี้ควบคุมการแข่งขันโดย สิงคโปร์ คู่ที่เราโดนโกง ลูกชายของเค้ามาแข่งในสิ่งที่โค้ชไทยประท้วงคะแนนไม่ขึ้น เราได้คะแนนก็ไปให้คู่แข่ง ถึงเวลามาตัดคะแนนไทย 15 คะแนน เป็นการตัดสินปันจักสีลัตที่แย่มากไม่เคยเกิดขึ้นในการแข่งขันปันจักสีลัตระดับโลกมาก่อน
“ผมขอยืนยันว่าผมนำนักกีฬาออกจากสนามทำตามระเบียบของสหพันธ์ปันจักสีลัตนานาชาติ เราไม่ได้ทำผิดกฏระเบีบบที่ไม่ดีไม่งาม เพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศชาติ อยากฝากถึงทุกคนว่ากีฬาปันจักสีลัตเป็นกีฬาที่สง่างาม มีความสวยงาม เป็นกีฬาที่น่านับถือ เป็นกีฬาที่ควรผลักดันให้เด็กๆมาเล่นเพราะมีเรื่องของวินัย มีความน้ำใจนักกีฬา อยากให้ทุกคนจรรโลงสิ่งที่ดีของกีฬาปันจักสีลัตไว้ ส่วนที่บ้านเรา ผมในฐานะประธานผู้ตัดสินขอยืนยันว่าจะรักษากีฬานี้ด้วยความยุติธรรมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ด้าน “ลัน” อาดีลัน เจ๊ะแมง ดีกรีแชมป์โลก และแชมป์ซีเกมส์ 2015 เจ้าของเหรียญทองประเภทต่อสู้ คลาสดี (60-65 กก.) เปิดเผยว่า เรื่องการตัดสินแบะกติกาใหม่ทำให้หนักใจ แต่ผมก็ทำให้ดีที่สุดจนได้เหรียญทอง ผมแข่งซีเกมส์มา 3 ครั้ง ได้เหรียญทองที่สิงคโปร์ ได้เหรียญเงินที่ฟิลิปปินส์ ถ้าครั้งหน้ามีการบรรจุแข่งผมก็จะแข่งอีกเพื่อคว้าเหรียญทองให้ได้ โดยรายการต่อไปมุ่งเป้าไปที่ชิงแชมป์โลก ที่มาเลเซีย
ส่วน “จุ้น” ศรานนท์ กลมพันธ์ นักมวยไทยในชื่อ ธงชัย ศิษย์สองพี่น้อง เจ้าของเหรียญเงิน ประเภทต่อสู้ คลาสเจ (90-95 กก.) นักมวยไทยในชื่อ ธงชัย ศิษย์สองพี่น้อง เปิดเผยว่า ผมขอโทษครับที่ไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาได้ ผมไม่ได้ยอมแพ้ ผมได้ขอถอนตัวออกจากการแข่งขัน เพราะผมรู้สึกไม่แฟร์ เพราะในการแข่งขันที่ผมควรจะได้แต้มก็ไม่ได้ ผมทำคู่แข่งล้มก็ไม่ได้แต้ม เอาคะแนนไปให้คผู้แข่งแทน พยายามจับฟาวล์เรา เวลาแลกอาวุธกันก็เดินออกไปนอกเส้น ทำให้เราหงุดหงิด
“ผมคงกลับไปฝึกกีฬาปันจักสีลัตให้หนักเพื่อลงแข่งชิงแชมป์โลก ที่มาเลเซีย ผมขอโฟกัสตรงนี้ ก่อน เลยยังไม่ได้กลับไปชกมวยไทย แต่ซีเกมส์ครั้งต่อไปผมจะเอาเหรียญทองให้ได้ ถ้าไม่มีภาระกิจในเรื่องของปันจักสีลัตผมคงกลับไปชกมวยไทยอีก”