ปลาตายเต็มหาดบางแสน เฉลยสาเหตุแล้วช็อตฟีล ไม่ใช่น้ำเน่า ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ไม่ใช่อาเพศ แต่เพราะ “อวนขาด”
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวว่า เช้านี้มีปลาตายเต็มชายหาดบางแสน สภาพเน่ามีกลิ่นเหม็น เหมือนกับว่าตายมาหลายวันแล้ว หลังจากการมีแชร์เรื่องราวนี้ลงไปในโซเซียล ต่างก็มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมปลาถึงตายเต็มชายหาด เป็นเพราะน้ำเน่าเสียหรืออาจเป็นสัญญาณเตือนภัยธรรมชาติ บ้างก็ว่าอาจเป็นลางบอกเหตุอาเพศ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังชายหาดวอนภาและชายหาดบางแสน ซึ่งมีแนวชายหาดหลายกิโลเมตร ตลอดแนวชายหาดจะพบกับปลาตายเต็มชายหาด ส่วนใหญ่จะเป็นปลาเล็กไปถึงขนาดกลาง มีกลิ่นเน่าเหม็นทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าที่จะเล่นน้ำทะเล
สอบถามกับชาวบ้านแถวนั้นบอกว่า พบปลาตายลอยมาเกยชายหาดตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว สาเหตุมาจากน้ำเน่าจึงทำให้ปลาตาย
สอบถามข้อมูลจากชาวประมงบอกว่า สาเหตุที่ปลาตายลอยมาเกยเต็มชายหาดก็เพราะเรือหาปลาที่อยู่กลางทะเล ปลาพวกนี้มันไปติดอวนหาปลาแล้วตายหลุดออกมา ซึ่งทางเทศบาลตำบลแสนสุขกำลังเร่งเก็บซากปลาที่ตายเต็มชายหาดนำไปฝังกลบต่อไป
ล่าสุด ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี และหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอ่างศิลา (ชลบุรี) ตรวจสอบพื้นที่ ชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี หาสาเหตุปลาตายเกยหาดบางแสน
เจ้าหน้าที่ระบุภายหลังตรวจสอบว่า ปลาที่ตายเป็นปลาชนิดเดียวกันคือ ปลาตะเพียนน้ำเค็ม ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Anodontostoma chacunda มีชื่อเรียกอีกว่า ปลาโคกหรือปลามักคา มีขนาดใกล้เคียงกันทั้งหมด ยาวประมาณ 20 ซม. สภาพเน่า จึงตรวจสอบข้อมูลจากเครือข่ายอนุรักษ์ ผู้ประกอบการแพปลา และเรือประมงในพื้นที่ พบว่า เรือประมงอวนล้อมได้ออกจับปลาตะเพียนน้ำเค็มที่ชุกชุมมากในระยะนี้ ซึ่งคาดขณะทำการประมง อวนที่จับปลาเกิดขาด ทำให้ปลาที่จับได้หลุดลอยและถูกคลื่นลมซัดไปเกยบริเวณชายหาดบางแสน
โดยทางเทศบาลเมืองแสนสุขได้จัดเก็บปลาทั้งหมด มีน้ำหนักรวมโดยประมาณ 10,000 กก. ออกจากชายหาด พร้อมกับทำความสะอาดชายหาดให้เข้าสู่ภาวะปกติ และได้ประสานผู้ประกอบการเรือประมง ให้หาวิธีการที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีกต่อไป
โดยทางเทศบาลเมืองแสนสุขได้จัดเก็บปลาทั้งหมด มีน้ำหนักรวมโดยประมาณ 10,000 กก. ออกจากชายหาด พร้อมกับทำความสะอาดชายหาดให้เข้าสู่ภาวะปกติ และได้ประสานผู้ประกอบการเรือประมง ให้หาวิธีการที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีกต่อไป