ประโยชน์ของ คาร์ซีท ช่วยให้ลูกคุณปลอดภัย แต่ทำไมหลายคนไม่พอใจ! หลังออกกฎหมาย บังคับใช้

Home » ประโยชน์ของ คาร์ซีท ช่วยให้ลูกคุณปลอดภัย แต่ทำไมหลายคนไม่พอใจ! หลังออกกฎหมาย บังคับใช้

ประโยชน์ของ คาร์ซีท ช่วยให้ลูกคุณปลอดภัย แต่ทำไมหลายคนไม่พอใจ! มีติดรถไว้อุ่นใจกว่า ปลอดภัยกว่าเอาเด็กมานั่งตักแน่นอน

จากกรณีที่เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 บัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อบังคับว่า

  • คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
  • คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วย เข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด

ซึ่งภายหลังได้มีการประกาศนี้เผยแพร่ออกไป ประเด็นเรื่องข้อบังคับเกี่ยวกับ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือ Car Seat (คาร์ซีท) นั้นก็ทำให้ประชาชนหลายคนไม่พอใจเกี่ยวกับมาตการดังกล่าวหลายคนมองว่า เป็นการหาเรื่องให้เสียเงิน หรือ ผลักภาระให้ประชาชน หากินกับคนไม่มีเงินซื้อ ซึ่งมีน้อยคนมากที่เข้าใจ-เข้าถึงความสำคัญของการมี คาร์ซีท ทั้งๆที่ คาร์ซีท นั้นมีประโยชน์ในด้านของความปลอดภัยให้กับลูกหลานของผู้ขับขี่รถยนต์ เพราะรถนั้นไม่ได้ออกแบบมาเบื่อให้เด็กเล็กนั่งได้อย่างปลอดภัย ที่นั่งหรือเข็มขัดนิภัยจะสามารถใช้ได้กับผู้ที่มีความสูง 140 ซม. ขึ้นไป ซึ่งเสียงจากประชาชนต่างบอกว่า หากภาครัฐจะเข้ามาช่วยเหลือประชาชนในเรื่องนี้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถซื้อได้

เพราะจากอุบัติเหตุหลายๆกรณีที่มีเด็กเล็กได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็มาจากการที่พ่อแม่ของเด็กนำตัวมาอุ้มไว้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุหากเด็กไม่พุ่งทะลุกระจกก็โดนอัดกับเบาะหน้า หรือ คอนโซล หากไม่ตายก็กระดูกหัก เนื่องจากไม่มีเซฟตี้ที่เหมาะสมสำหรับร่างกายเด็ก โดยประโยชน์ของจะช่วยลดการบาดเจ็บของเด็ก หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น เมื่อติดตั้ง Car Seat ในตำแหน่งที่ถูกต้องอย่างเช่น การติดตตั้งไว้ตรงกลางหากเกิดการชนขึ้นที่ด้านข้างตัวรถเด็กก็จะช่วยลดการบาดเจ็บได้

ทั้งนี้การติดตั้ง คาร์ซีท ก็จะต้องคำนึงถึงช่วงอายุของเด็ก เพื่อการป้องกันที่สูงสุดเมื่อใช้ คาร์ซีท โดยสำหรับเด็กแรกเกิด จนถึงอายุประมาณ 12 เดือน หรือ 1 ปี และเด็กที่น้ำหนักตัวไม่เกิน 10 กิโลกรัม ควรใช้ คาร์ซีท สำหรับทารก (Infant Seat) หรือ คาร์ซีท สำหรับทารกและเด็กเล็ก (Convertible Seat)ที่จะเป็นชนิดที่ตัวเด็กหันหน้าเข้าเบาหลัง โดย คาร์ซีท ต้องสามารถปรับเอนไปกับที่นั่ง 45 องศา เด็กที่มีอายุมากกว่า 12 เดือน หรือ 1 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี หรือน้ำหนัก 10-28 กิโลกรัม ควรใช้คาร์ซีทแบบที่นั่งหันไปทางหน้ารถ เด็กที่มีน้ำหนักตัว 15-18 กิโลกรัม ควรใช้คาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลังเด็กที่มีน้ำหนักตัว 22-25 กิโลกรัม หรือเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปสามารถนั่งตัวตรงได้ ควรใช้คาร์ซีทแบบไม่มีพนักพิงด้านหลัง

อย่างไรก็ตามหากครอบครัวขอบท่านมีบุตรหลาน ที่เป็นเด็กเล็กก็ควรซื้อหา คาร์ซีท ตามกำลังทรัพย์ที่พอไหว มาติดรถไว้เพื่อความปลอดภัยของเด็กโดยราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ หลักพันต้นๆ ไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งตัว คาร์ซีทนั้นจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 ปี ก่อนที่จะเสื่อมสภาพตามการใช้งาน

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่ง Car seat หากฝ่าฝืนโทษปรับ 2 พันบาท

ขอบคุณข้อมูล th.carro.co

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ