ประวัติ สส.ต้นกล้า จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.หนุ่มของก้าวไกล สายเลือดคน 6 ตุลา

Home » ประวัติ สส.ต้นกล้า จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.หนุ่มของก้าวไกล สายเลือดคน 6 ตุลา
ประวัติ สส.ต้นกล้า จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.หนุ่มของก้าวไกล สายเลือดคน 6 ตุลา

ชื่อของ สส.ต้นกล้า จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม.เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม ของพรรคก้าวไกล กลายเป็นที่สนใจขึ้นมา หลังมีข่าวทะเลาะวิวาทกับชายคนหนึ่งในร้านอาหารย่านเอกมัย  และกลายเป็นข่าวดังตลอดทั้งวัน

วันนี้ Sanook News ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ต้นกล้า จรยุทธ สส.หนุ่มไฟแรงของพรรคก้าวไกล ให้รู้จักเขามากกว่านี้กัน

จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ มีชื่อเล่นว่า ต้นกล้า ปัจจุบันอายุ 33 ปี สส. กทม. เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม  

  • ประวัติการศึกษา 

ประถมศึกษา โรงเรียนอัสสัมชัญ สำโรง
มัธยมศึกษา โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา
มัธยมศึกษา University Heights Academy, KY, USA
ปริญญาตรี บริหารธุรกิจภาคภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิตภาคกฎหมายมหาชน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต

  • ประวัติการทำงาน

 2551-2553 บริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด
2553 – ปัจจุบัน บริษัท มีเดีย แรพ จำกัด
2557 – ปัจจุบัน ทนายความอิสระ
2561 – ปัจจุบัน ที่ปรึกษากฎหมายประจำศาลเยาวชนและครอบครัว
2565 – ปัจจุบัน ที่ปรึกษาประจำกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน
2566 – สส.กทม. พรรคก้าวไกล

จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ เป็นอีกหนึ่งลูกไม้ไม่ไกลต้น เป็นผลผผลิตจาก “คนเดือนตุลา” เพราะทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ล้วนผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 โดยเจ้าตัวเคยเล่าว่า

“เหตุการณ์ 6 ตุลา เป็นเหตุการณ์ที่ใกล้ชิดกับครอบครัว คุณพ่อเข้าป่าเพื่อเข้าร่วมกับกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย เพื่อเรียกร้องสิทธิประชาธิปไตย ส่วนคุณแม่ถูกจับช่วงสายของวันที่ 6 ต.ค. 2519 ถูกคุมขังอยู่เป็นอาทิตย์จนกว่าจะได้ประกันตัวออกมา หลังจากนั้นคุณแม่ได้เคลื่อนไหวอยู่ในเมือง เพื่อเป็นกำลังสนับสนุน ส่งเงิน ส่งของ ส่งยารักษาโรค ส่งกำลังต่างๆเข้าป่า เพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวของนักรบปฏิวัติที่อยู่ในป่า

เหตุการณ์ 6 ตุลาของทุกปีคือการรำลึกถึงการต่อสู้ของทุกคนในครอบครัวที่เคียงข้างกับประชาชนอีกจำนวนมากในช่วงเวลานั้น พวกเราไม่ลืม และการไม่ลืมจะเป็นเหมือนสิ่งกระตุกเตือนสังคมไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำรอยเดิมอีก แต่ในทางกลับกันหากพยายามทำให้สังคมลืม วงจรเดิมๆ ก็กลับมาอีก ไม่ว่าความพยายามสร้างสถานการณ์ขัดแย้งของประชาชนเพื่อเป็นข้ออ้างเพื่อปูทางไปสู่การยึดอำนาจรัฐประหาร หรือเป็นข้ออ้างเพื่อการล้อมปราบประชาชนดังเช่น เหตุการณ์ตากใบ การล้อมปราบคนเสื้อแดง พ.ค. 2553 หรือการสลายการชุมนุม จับกุมคุมตัวนักศึกษาประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐและชูข้อเสนอปฏิรูปสถาบัน” 

“ประเทศที่ผมอยากเห็น อยากเห็นประเทศไทยพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ อยากเห็นความเท่าเทียมในสังคม อยากเห็นคนทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีความเหลื่อมล้ำ อยากเห็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา”

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ