นายกรัฐมนตรี ยังไม่ชัดล็อกดาวน์ กทม. 7 วัน กลัวเจ็บแล้วไม่จบ พร้อมสยบ ศึก ส.ว.-พปชร. บอกมีนายกฯ คนเดียวกัน

วันนี้ (25 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงข้อเสนอล็อกดาวน์ กทม. โดยระบุว่า พยายามทำอยู่ แต่ชีวิตทุกคนต้องเดินหน้า ครอบครัวต้องทำมาหากิน ให้มีกินมีใช้ เพราะฉะนั้นต้องร่วมมือกัน และรัฐบาลต้องพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจ

ส่วนชัดเจนเลยหรือไม่ว่าขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องล็อกดาวน์ กทม. 7 วัน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กำลังพิจารณา และยังไม่ยืนยันว่าจะล็อกดาวน์ กทม. 7 วัน หรือไม่ ส่วนข้อเสนอที่บอกว่า ให้เจ็บแล้วจบ นั้น นายกรัฐมนตรีย้อนถามว่า ถ้าเจ็บไม่จบจะทำอย่างไร ขอให้ตอบคำถามด้วย แต่คนต้องปกป้องตัวเอง อยู่ที่จิตสำนึกของทุกคนด้วย

ส่วนต้องใช้กฎหมายแรงขึ้นหรือไม่ เพื่อให้คนปฏิบัติตามมาตรการ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กฎหมายมีทุกตัวอยู่แล้ว แต่เมื่อวานก็เห็นคนที่มาเดินเกะกะอยู่ ถามว่าเขาเกรงกลัวกฎหมายหรือไม่ ตนก็กลัวกฎหมาย แต่คนที่ไม่กลัว ถามว่าเขาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศหรือไม่ พร้อมกล่าวย้ำว่า อย่ามาถามเรื่องนี้กับตนอีก เพราะไม่อยากเดินหน้าไปสู่สิ่งที่เกิดความวุ่นวายและความอดอยาก ปากท้องประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญ

ขณะที่เมื่อถามว่าการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ได้ติดตามหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็จบไปแล้ว ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐกับ ส.ว. นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวสั้นๆ ว่า ไม่มีอะไร นายกฯ คนเดียวกัน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกประชุมศูนย์ปฎิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. และ ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข ศูนย์โควิด-19 ที่มีนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน และคณะ เข้าหารือถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 และเรื่องวัคซีน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียด ที่แพทย์และหลายฝ่ายต้องรองรับสถานการณ์โควิด-19 ในขณะที่หลายโรงพยาบาลปิดรับห้องฉุกเฉิน และห้อง ICU ก็เต็มไปหมดแล้ว รวมไปถึงโรงพยาบาลสนามอีกหลายแห่ง และโรงพยาบาลสนามบุษราคัมจะหมดสัญญาเช่า ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมีจำนวน 3,000-4,000 ราย ติดต่อกันมาหลายวันและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น ทำให้บรรดาอาจารย์แพทย์หลายคนเสนอให้ที่ประชุม ศบค. พิจารณามาตรการล็อกดาวน์กรุงเทพฯ เพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนย้ายของประชาชน ไม่ให้เกิดการกระจายเชื้อไปยังต่างจังหวัด