ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ ตีตก ข้อกล่าวหา “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” เมื่อครั้งนั่งรองเลขาฯ กทช. ใช้อำนาจให้ลูกได้รับทุนเรียน ตปท. ชี้ เป็นไปโดยชอบ
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2565 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทช.) กรณีถูกกล่าวหาใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อให้บุตรสาวของตนได้รับทุนการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการกทช. ประจำปี พ.ศ.2553 (ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ณ ต่างประเทศ
โดยคดีนี้มีพฤติการณ์กล่าวหาว่า สำนักงานคณะกรรมการกทช. ได้มีประกาศ เรื่อง รับสมัครสอบคัดเลือก เพื่อรับทุนสำนักงานคณะกรรมการกทช. ประจำปี 2553 (ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) ลงวันที่ 19 พ.ย. 2552 โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครขอรับทุน คือ ผู้มีสิทธิสมัครสอบจะต้องเป็นผู้ที่มีรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสม ในการรับทุนเล่าเรียนหลวงประจำปี 53 โดยไม่มีข้อห้ามบุตรเจ้าหน้าที่สำนักงาน กทช.รับทุน เหมือนเช่นของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ระบุคุณสมบัติของผู้ที่สมัครขอรับทุนว่า ต้องไม่เป็นบุตรพนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยกำหนดวันรับสมัครระหว่างวันที่ 11-22 ม.ค.53 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก วันที่ 2 ก.พ.53 ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสม ในวันที่ 22 ม.ค.53 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสมัครขอรับทุนของสำนักงาน กทช. โดยกำหนดวันสอบประเมินความเหมาะสมในวันที่ 24-25 ก.พ.53
สำนักงาน กทช. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก เพื่อรับทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช. ในวันที่ 2 ก.พ.53 โดยกำหนดวันสอบในวันที่ 25 ก.พ.53 ทั้งนี้ บุตรสาวของนายฐากร ได้รับทุนสาขากฎหมาย ซึ่งสอบตรงกันในวันที่ 25 ก.พ.53 ปรากฏว่านายฐากร ได้สั่งเลื่อนวันสอบ เพื่อรับทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช. จากวันที่ 25 ก.พ.53 เป็นวันที่ 26 ก.พ.53
เนื่องจากวันที่ 25 ก.พ.53 บุตรสาวของตนจะต้องเข้าสอบประเมินความเหมาะสม เพื่อให้เป็นผู้มีสิทธิรับทุนวิวัฒนไชยานุสรณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยอ้างว่าสำนักงาน กทช. จะเสียโอกาสในการคัดเลือกนักเรียนผู้มีคุณภาพ แต่การกระทำดังกล่าวเป็นประโยชน์แก่บุตรสาวและตนเอง ทำให้ กทช. ต้องเสียค่าใช้จ่ายทุนการศึกษาแบบเต็มจำนวนแก่บุตรสาว ในขณะที่ตนเป็นผู้บริหารจัดการดูแลสำนักงาน กทช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว เห็นว่า ทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช. ประจำปี 2553 (ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) ที่มีการกำหนดลักษณะทุนที่ให้และวิธีสรรหาใหม่ โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์จากรายชื่อผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนของนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวงมาแล้ว เป็นการดำเนินการตามมติของ กทช. ตามที่รองศาสตราจารย์ สุธรรม อยู่ในธรรม กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เสนอ ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายฐากร ตัณฑสิทธิ์ มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนการเสนอการกำหนดลักษณะทุน และวิธีการสรรหาใหม่ แต่อย่างใด
ในขณะที่มีการเสนอให้มีการกำหนดลักษณะทุนที่ให้และวิธีสรรหาใหม่ดังกล่าว จนถึงขั้นตอนที่สำนักงาน กทช. ได้มีประกาศ เรื่องรับสมัครสอบคัดเลือกเพื่อรับทุนสำนักงานคณะกรรมการ กทช. ประจำปี 2553 นั้น ยังมิได้มีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสม ในการรับทุนของการสอบแข่งขันเพื่อรับทุนเล่าเรียนหลวง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 โดยทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช. ที่ผ่านมาก็ไม่มีข้อห้ามบุตรเจ้าหน้าที่สำนักงาน กทช. เข้ารับทุน
ดังนั้น การกำหนดลักษณะทุนที่ให้และวิธีสรรหาใหม่ดังกล่าว จึงมิได้เป็นการวางแผนล่วงหน้า เพื่อล็อกสเปกให้แก่บุตรสาวของนายฐากรโดยเฉพาะ และนายฐากรมิได้เป็นผู้สั่งให้เลื่อนวันสอบเพื่อรับทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช. จากวันที่ 25 ก.พ.53 เป็นวันที่ 26 ก.พ.53 แต่อย่างใด อีกทั้งการเลื่อนวันสอบสัมภาษณ์ดังกล่าว มิได้เป็นประโยชน์ต่อบุตรสาวนายฐากรคนเดียว แต่เป็นประโยชน์รวมถึงผู้สมัครสอบรายอื่นๆ ทั้งหมดด้วย
ประกอบกับกรณีการคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนการศึกษาของสำนักงาน กทช. ประจำปี 2553 นี้ เคยมีการร้องเรียนไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีการพิจารณาสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่า การให้ทุนการศึกษาตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการ กทช. เป็นไปโดยชอบแล้วให้ยุติเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
ที่ประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่านายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป