เปิดใจ เจ้าของ “บ้านปาฏิหาริย์” บ้านหรูริมชายฝั่งมาลิบู ที่รอดจากไฟป่าลอสแอนเจลิสมาได้ เผย 3 กุญแจสำคัญ

ไฟป่าลอสแอนเจลิสในสหรัฐฯ สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก และยังคงลุกลามต่อเนื่อง พลังของไฟป่ารุนแรงจนเผาผลาญทุกสิ่งที่ผ่าน ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านเรือนที่ถูกเผาจนเหลือเพียงซากปรักหักพัง

อย่างไรก็ตาม ในย่านบ้านหรูริมชายฝั่ง “มาลิบู” มีบ้านหลังหนึ่งที่รอดพ้นจากมหันตภัยนี้ราวกับปาฏิหาริย์ ภาพล่าสุดเผยให้เห็นว่าบ้านหรูทั้งแถบถูกเผาวอดวาย แต่บ้านหลังนี้กลับแทบไม่ได้รับความเสียหายเลย และเจ้าของยังสามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้ เจ้าของบ้านได้ออกมาเปิดเผยถึง 3 เหตุผลสำคัญที่อาจช่วยให้บ้านของเขารอดพ้นจากไฟป่าในครั้งนี้

ตามรายงานของ New York Post “บ้านปาฏิหาริย์” หลังนี้เป็นของ เดวิด สไตเนอร์ วัย 64 ปี อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจัดการขยะในรัฐเท็กซัส หลังเกษียณ เขาได้ย้ายมาพักอาศัยในบ้านหรูริมชายฝั่งมาลิบู เพื่อใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

สไตเนอร์ เล่าว่า เมื่อไฟป่าเริ่มลุกลามเข้ามาใกล้ พวกเขาจำเป็นต้องอพยพออกทันที เขาคิดว่าบ้านหรูมูลค่าราว 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 312 ล้านบาท) คงไม่รอดจากไฟป่าแล้ว แต่ไม่นานก็ได้รับข้อความจากเพื่อนหลายคนที่บอกว่า สื่อรายงานว่าบ้านของเขาเป็นหลังเดียวที่รอดจากมหันตภัยครั้งนี้

“ผมเริ่มได้รับรูปภาพ และถึงได้ตระหนักว่าเรารอดมาได้จริง ๆ” สไตเนอร์กล่าวด้วยความยินดี เขาเผยว่าบ้านของเขาออกแบบมาให้ทนต่อแผ่นดินไหว และการรอดพ้นจากไฟป่าครั้งนี้อาจเกิดจาก 3 เหตุผลสำคัญ

1. ฐานรากลึก: บ้านหลังนี้มีเสาเข็มลึกถึง 50 ฟุต (ประมาณ 15.24 เมตร) ลงไปถึงชั้นหินแข็งใต้ดิน

2. วัสดุทนไฟ: ต่างจากบ้านหรูหลังอื่นที่ใช้ไม้เป็นหลัก บ้านของสไตเนอร์ใช้ปูนฉาบและหิน ซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่ติดไฟ

3. หลังคาป้องกันไฟ: สไตเนอร์เชื่อว่านี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะแม้บ้านหรูบางหลังจะสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่ไฟสามารถลามจากหลังคาเข้ามาในตัวบ้าน ทำให้อุปกรณ์ภายในเสียหายได้

สไตเนอร์ เล่าต่อว่า บ้านของเขาอยู่ในแนวหน้าริมชายฝั่ง จึงไม่เคยคิดว่าจะเผชิญกับภัยจากไฟป่า “ถ้าเกิดแผ่นดินไหว ผมเชื่อว่าบ้านของผมน่าจะเป็นหลังสุดท้ายที่พัง แต่ไม่เคยนึกเลยว่าถ้าเกิดไฟไหม้ มันจะยืนหยัดได้จนถึงที่สุด”